ช่วงปลายปี 2567 หุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายตายกันเกลี้ยง ราคาต่ำกว่าจองกันเป็นแถว นักลงทุนเจ๊งกันป่นปี้ แต่หุ้นน้องใหม่ที่ประเดิมเข้าซื้อขายเป็นตัวแรกปี 2568 กลับร้อนแรงพลิกความคาดหมาย และตั้งแต่เข้ามาซื้อขาย ราคาพุ่งไม่หยุด เพิ่งจะถูกทุบลงเป็นแรกเท่านั้น
หุ้นบริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบพัฒนา และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย และระบบเทคโนยีสารสนเทศและการสื่อสารครบวงจร โดยนำหุ้นเสนอขายประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวน140 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3 บาท
PIS ประเดิมซื้อขายในตลาด mai ในวันแรก 20 มกราคมที่ผ่านมา ในฐานะหุ้นน้องใหม่ตัวแรกแห่งปี ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน และกระแสความนิยมหุ้นใหม่ที่ตกต่ำสุดขีด
นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่มั่นใจว่า PIS จะซ้ำรอยหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายช่วงปลายปีที่ผ่านมาหรือไม่ จะยืนเหนือจองหรือเปล่า แต่ปรากฏว่า หุ้นน้องใหม่ตัวแรก กลับร้อนแรงสุดขีด ราคาวันแรกเปิดที่ 3.90 บาท และขึ้นไปสูงสุดที่ 3.92 บาท และลงมาปิดที่ 3.60 บาท สูงกว่าจอง 20 สตางค์หรือสูงกว่าจอง 20% มูลค่าซื้อขาย 520.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นปริมาณซื้อขาย 275.88 ล้านหุ้น หรือเกือบ 1 เท่าตัวของหุ้นที่นำเสนอขายนักลงทุนครั้งแรก
การปิดสูงกว่าราคาจอง 20% ในวันแรก ถือว่า PIS แข็งเกินความคาดหมายแล้ว แต่การซื้อขายวันต่อ ๆ มา ราคายังพุ่งทะยานต่อไป ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น ครองความเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับ 1 ทุกวัน โดยไม่รู้ว่ามีนักลงทุนรายใหญ่อยู่เบี้องหลังจากลากราคาหรือไม่
เพราะราคาที่ทะยานขึ้นสูง เกินเป้าหมายราคาที่โบรกเกอร์หลายสำนักตั้งไว้ นักลงทุนรายย่อย ไม่น่าจะแห่เข้าไปซื้อไล่ราคา และแม้แต่นัดลงทุนที่ได้โควตาจองหุ้น PIS น่าจะขายหุ้นออกหมดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อราคาทะยานขึ้นสูงกว่าจองเกิน 100%
7 วันทำการ นับจากเข้าซื้อขาย หุ้น PIS ไม่รู้จักคำว่าแผ่ว ถูกลากขึ้นตลอด จนกระทั่งการซื้อขายวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 6.65 บาท ก่อนถูกทุบขาย จนราคาปักหัวลงอย่างรวดเร็ว ก่อนปิดที่ 5.55 บาท ลดลง 80 สตางค์หรือลดลง 12% มูลค่าซื้อขาย 211.39 ล้านบาท
ถ้ามีนักเก็งกำไรใจกล้า ตามแห่เข้าไปลุย PIS และขายหนีไม่ทัน งานนี้มีโอกาสเจ็บตัวหนัก เพราะไม่รู้ว่า รายการลากขึ้นไปสู่ยอดดอย และทุบขายทิ้งดิ่งลงมา จะจบหรือยัง หรือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของขาลง
ก่อนที่จะถูกทุบลงเมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ค่า พี/อี เรโช PIS พุ่งขึ้นเฉียด 40 เท่า ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่ปริมาณหุ้นที่อยู่ในมือนักลงทุนรายย่อยมีเพียง 950 รายเท่านั้น ถือหุ้นรวมกันสัดส่วนประมาณ 28% ของทุนจดทะเบียน และมีนักลงทุนขาใหญ่หลายคนถือหุ้นรวมอยู่ด้วย ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 คือ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY โดยถือหุ้นในสัดส่วน 67.70% ของทุนจดทะเบียน
SKY ซึ่งเป็นหุ้นบริษัทแม่ มีการจุดพลุเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ อยู่ในข่ายหุ้นร้อน และมีนักลงทุนขาใหญ่หลายรายถือหุ้นด้วย และเป็นกลุ่มเดียวกันที่ถือหุ้น PIS
สำหรับ PIS เล่นกันหรือลากกันมา 7 วันติดแล้ว ราคา 6.65 บาท อาจเป็นจุดสูงสุดของยอดดอยในรอบนี้แล้วก็ได้
เพียงแต่จะมีรายย่อยหลงเข้าไป ”ติดกับ” ค้างบนยอดดอยหุ้น PIS อยู่มากน้อยขนาดไหนเท่านั้น
