xs
xsm
sm
md
lg

กูรูชี้ "DEEPSEEK” AI จีนกระทบหุ้นไทยไม่มาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกเกอร์ชี้ AI จีน “DEEPSEEK” กระทบหุ้นไทยแค่วงจำกัด หลังทำหุ้นเทคฯ ทั่วโลกผันผวนหนัก เหตุหุ้น TECH หรือหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับหุ้นผลิตชิปในไทยมีไม่มาก แค่ DELTA และ CCET ซึ่งคาดรับผลกระทบระยะสั้น ขณะที่หุ้นกลุ่มวางระบบอย่าง BE8 BBIK PIS INSET AIT ได้ประโยชน์ รวมทั้งกลุ่ม DR ที่อิงแอปพลิเคชั่น AI ของจีน

ASPS มองหุ้นไทยรับผลกระทบ AI จีน "DEEPSEEK" ไม่มากเท่าต่างประเทศ

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด เปิดเผยว่า วานนี้ (27 ม.ค.) จีนเขย่าโลกโดยการดัน “DEEPSEEK” AI ต้นทุนต่ำชนสหรัฐฯ ซึ่ง DEEPSEEK เป็นธุรกิจสตาร์ทอัปของจีน ก่อตั้งปี 2566 หากเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง DEEPSEEK กับ ChatGPT คือ การลงทุนที่น้อยกว่าเพียง 5.6 ล้านเหรียญ ทำงานบนชิป (NVIDIA H800S) ที่มีขีดความสามารถต่ำกว่าแต่ AI มีประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่าแชตบอตระดับโลกอย่าง ChatGPT ในบางหัวข้อ อีกทั้งมีราคาขายต่อประสิทธิภาพ หรือ 1 ล้าน Tokens

ประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดการตั้งคำถามถึง ความจำเป็นต่อการใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาลในอุตสาหกรรม AI ของสหรัฐฯ ส่งผลให้วานนี้มาร์เกตแคปหุ้น Semiconductor หาย 1 ล้านล้านเหรียญ เช่น NVIDIA -16.9% BROADCOM -17.4% ASML -5.7% AMD -6.4% เป็นต้น นอกจากนี้ยังเห็นการโยกย้ายเม็ดเงินจาก MSCI ACWI GROWTH -2.6% สู่ MSCI ACWI VALUE +1.4%

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยน่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากหุ้นกลุ่ม TECH ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับหุ้นผลิตชิปต่างๆ มีไม่มาก เช่น DELTA -6.1% CCET -5.06%

ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ คือ DR อิงแอปพิเคชัน AI จีน : AAPL80X, BABA80, BIDU80 และหุ้นวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศไทย : BE8, BBIK, PIS, INSET, AIT

บล.พาย มองระยะสั้นกระทบ DELTA หลังหุ้นร่วงกว่า 6%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จีนสามารถพัฒนา AI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก โดย DeepSeek นั้นมีค่าบริการ 0.55 ดอลลาร์สหรัฐต่อคําถาม 1 ล้าน Tokens ส่วน ChatGPT นั้นอยู่ที่ 2.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ล้าน Tokens ซึ่งบริษัทที่ก่อตั้ง DeepSeek นั้นใช้เงินลงทุนเพียง 190 ล้านบาท ในขณะที่ OpenAl ใช้เงินลงทุนมากถึง 1.68 แสนล้านบาท และ DeepSeek พึ่งก่อตั้งมาเพียง 1 ปีกว่าๆ เท่านั้น หรืออย่าง Microsoft ก็ทุ่มเงินกับโครงการ AI มากถึง 3.38 แสนล้านบาท

จากการทดลองพบว่าทั้ง ChatGPT DeepSeek สามารถใช้ภาษาไทยและอังกฤษได้อย่างคล่องตัว แต่การตอบคําถาม ChatGPT จะทําได้ดีกว่า ในขณะที่การสร้างรูปนั้นพบว่า DeepSeek ยังมีสามารถทําได้ แต่หากเป็นการ Search ข้อมูลทั่วไปถือว่าทําได้ใกล้เคียงกัน เป็นที่น่าสนใจว่าจากนี้จะสามารถพัฒนาให้ขึ้นไปใกล้เคียงกับ ChatGPT ด้วยต้นทุนที่ยังต่ำต่อเนื่องได้หรือไม่

หากเป็นเช่นนั้นอาจเกิดคําถามว่าบริษัทต่างๆที่ลงทุนด้าน AI ยังจําเป็นต้องลงทุนมหาศาลอีกหรือไม่ และผู้ให้บริการอย่าง OpenAI จะยังสามารถรักษาลูกค้าได้หรือไม่ ท่ามกลางค่าบริการรายเดือนที่สูงกว่า DeepSeek อย่างมาก ซึ่งทั้งหมดมีผลกับคําสั่งซื้อที่ส่งไปยัง NVIDIA ในขณะอีกมุมมองพบว่ากลุ่ม Tech สหรัฐฯ นั้นปรับขึ้นมาต่อเนื่องและ Valuation แพง (นักลงทุนคาดหวังสูง) ดังนั้นหากผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาดการณ์ก็เสี่ยงจะปรับฐานแรง นักลงทุนจึงควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก

ระยะสั้นนั้นอาจสร้างผลกระทบต่อกลุ่ม Tech ในไทยอย่าง DELTA ซึ่งวานนี้ปรับลง (-6.1%) และสร้างแรงกดดันต่อ SET 8.9 จุด แต่ยังไม่น่าสนใจเช่นเดิมด้วย Valuation ที่แพง


กำลังโหลดความคิดเห็น