เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทตกอยู่ในความตื่นตระหนก หลังการปรากฏตัวอย่างโดดเด่นของ DeepSeek สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบโอเพนซอร์สจากจีน ซึ่งสร้างความกังวลว่าอนาคตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาชิปประสิทธิภาพสูงอีกต่อไป เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Nvidia และบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ร่วงลงอย่างหนัก
Nvidia เปิดตลาดร่วงหนัก
หุ้นของ Nvidia (NVDA) ร่วงลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตลาดเพียงไม่กี่นาที โดยราคาหุ้นลดลงจาก 142 ดอลลาร์ต่อหุ้นเหลือเพียง 124 ดอลลาร์ต่อหุ้น ก่อนจะได้รับการสนับสนุนจากตลาดที่ระดับ 118 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา นอกจาก Nvidia แล้ว หุ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อื่นๆ ก็ร่วงลงเช่นกัน โดย Taiwan Semiconductor (NYSE: TSM) ร่วงลง 14% และ Broadcom (NASDAQ: AVGO) จากเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ร่วงลงถึง 17%
สั่นสะเทือนตลาดหุ้นสหรัฐ DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จีน กดหุ้นบิ๊กเทคฯร่วงหนัก
DeepSeek สตาร์ทอัพด้าน AI แบบโอเพนซอร์สจากจีน ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับ OpenAI ของสหรัฐฯ กำลังสร้างความฮือฮาในวงการเทคโนโลยี หลังแอปพลิเคชันของบริษัทสามารถแซงหน้าจำนวนดาวน์โหลดของ ChatGPT บน App Store ของ Apple ได้ DeepSeek อ้างว่าโมเดลโอเพนซอร์สของพวกเขาสามารถให้บริการที่คล้ายคลึงกับ ChatGPT ได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่า
โอเพนซอร์สคืออะไร?
โอเพนซอร์สเป็นรูปแบบการพัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้อมูล เช่น ซอฟต์แวร์ ที่ละทิ้งข้อได้เปรียบจากการคุ้มครองลิขสิทธิ์ โดยเปิดโอกาสให้ทีมงานจากภายนอกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา และอนุญาตให้ปรับเปลี่ยนหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้สร้างดั้งเดิม
นักวิเคราะห์ชี้ DeepSeek อาจเป็น "กับดักหนูที่ดีกว่า"
Brian Jacobsen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Annex Wealth Management ในเมืองเมโนโมนีฟอลส์ รัฐวิสคอนซิน ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ว่า "หาก DeepSeek เป็น 'กับดักหนูที่ดีกว่า' ตามสุภาษิต นั่นอาจสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวคิดเดิมๆ เกี่ยวกับ AI ที่เคยขับเคลื่อนตลาดในช่วงสองปีที่ผ่านมา"
เขากล่าวเสริมว่า "นั่นอาจหมายถึงความต้องการชิปที่ลดลง ความจำเป็นในการใช้พลังงานมหาศาลเพื่อขับเคลื่อนโมเดล AI ที่น้อยลง และการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ก็อาจไม่จำเป็นอีกต่อไป อย่างไรก็ดี นี่อาจเป็นโอกาสให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และช่วยกระตุ้นการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีประโยชน์มากมายในอนาคต"
ขณะที่ อาจารย์กิตติ์ เธียรธโนปจัย ผู้ช่วยอธิการบดี ม.ขอนแก่น โพสต์ผลการทดสอบ AI ของ DeepSeek ผ่านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล บนโซเชียลมีเดียเฟสบุ๊คว่า "ลองเอา deepseek-r1:1.5b ตัวเล็กสุด มารันใน notebook ตัวเอง มันเก่งจริงอย่างที่หลายคนอวยยศแฮะ response เร็ว กิน resource น้อย (อจก. ตามไปอ่าน architecture ของ deepseek แล้ว ในทางวิศวกรรม #ของแทร่ อยู่เด้อ) ประเด็นคือออ .. model ขนาด 1 - 2b parameters หลาย ๆ models นี่ คอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป มี memory เหลือสัก 1.5 - 2 GB ก็รันได้แล้วนะครับ ไม่ต้องมี GPU/NPU ช่วย accelerate ก็รันได้ (เครื่อง อจก. ก็ไม่มี GPU/NPU) ยิ่งถ้ามี AI-accelerated (e.g., CPU+NPU, Copilot+ PC) ที่กำลังทยอยออกมาวางขายผู้ใช้งานทั่วไป การรัน model เล็ก ๆ แบบนี้จะได้ response เร็วขึ้น ประหยัดพลังงาน และมีรายละเอียดมากขึ้นได้ (i.e., input/output tokens เยอะ ๆ ไม่ต้องกลัวเปลืองตัง 😛) .. ถ้าห่วงเรื่องข้อมูลส่วนตัว หรือกลัว footprints ปรากฏ online ก็จะมีทางเลือกทำ chat/RAG/agent บน device ของตัวเองเป็น offline ได้เลย"
อนาคตอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในความไม่แน่นอน
การเกิดขึ้นของ DeepSeek และโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สกำลังท้าทายสถานะเดิมของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเคยพึ่งพาการผลิตชิปประสิทธิภาพสูงเป็นหลัก นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญต่างจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าแนวโน้มนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดเทคโนโลยีและหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาวอย่างไรได้บ้าง