แม้บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ยังไม่รายงานผลการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 3,713.34 ล้านหุ้น อย่างเป็นทางการ แต่เป็นที่คาดหมายว่า หุ้นเพิ่มทุนทั้งหมดจะจำหน่ายได้หมดเกลี้ยง กระตุ้นให้นักลงทุนไล่ซื้อหุ้น EA จนราคาทะยานขึ้นอย่างคึกคัก
ก่อนหน้านั้น นักลงทุนกังวลกับฐานะทางการเงินของ EA และปัญหาหนี้ระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นกู้วงเงินกว่า 4 พันล้านบาท ที่ขอเลื่อนการชำระมาเป็นดือนพฤษภาคมนี้ และการประกาศเพิ่มทุน นำหุ้นจำนวน 3,713.34 ล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2 บาท
พร้อมแจกฟรีใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 1 หรือวอร์แรนต์ 1 ในสัดส่วน 3 หุ้นใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ อายุ 3 ปี ราคาแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ 4 บาท นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าจะระดมเงินกว่า 7.4 พันล้านบาทได้สำเร็จหรือไม่
แต่ผู้บริหาร EA ออกมาแถลงในเบื้องต้นว่า หุ้นเพิ่มทุนมีผู้ถือหุ้นเดิมจองล้นจำนวนที่จัดสรร จึงถือว่าการขายหุ้นเพิ่มทุนสำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากนั้น ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ยังเห็นด้วยกับการขายหุ้นบริษัท อีเอ โซล่า พิษณุโลก จำกัด บริษัทโรงไฟฟ้าบริษัทลูก ในมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท
ทั้งการเพิ่มทุนและขายโรงไฟฟ้าพิษณุโลก จะทำให้ EA มีเงินเข้ามาไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงิน มีเงินสำรองชำระหนี้ระยะสั้น มีทุนหมุนเวียน และมีเงินที่จะขยายการลงทุนตามที่วางแผนไว้
นักลงทุนจึงมองว่า ปัญหาใหญ่ของ EA ได้ผ่านพ้นไปแล้ว จึงไม่ต้องกังวลว่าบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้จะรอดหรือไม่ และผู้ถือหุ้นก็นอนตาหลับ เพราะมั่นใจว่า จะได้รับการชำระหนี้คืนแน่ เมื่อครบกำหนดเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้เดือนพฤษภาคม
หุ้น EA ที่เงียบเหงามานานจึงฟื้นคืนสู่ความคึกคัก โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา มีแรงซื้อตั้งแต่เปิดตลาด ผลักดันให้ราคาดีดตัวขึ้น ก่อนปิดการซื้อขายที่ 3.32 บาท เพิ่มขึ้น 38 สตางค์ มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 1,548.07 ล้านบาท
และไม่เฉพาะหุ้น EA ที่ร้อนแรงขึ้นมา หุ้นบริษัทลูก หรือหุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX และหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ก็ทะยานตามขึ้นมาด้วย
หุ้นกลุ่ม EA กำลังกลับมาแจ้งเกิดใหม่ วิกฤตฐานะทางการเงินได้รับการแก้ไข ราคาหุ้นมีแนวโน้มกลับตัวขึ้น แต่นักลงทุนไม่ควรมองโลกสวยเพียงด้านเดียว เพราะยังต้องรอดูผลประกอบการว่าจะฟื้นตัวขึ้นหรือไม่ หลังจากงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ผลประกอบการทรุดหนัก
การเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีหุ้นเพิ่มขึ้นจำนวนประมาณ 5 พันล้านหุ้น รวมหุ้นที่เกิดจากการแปลงสภาพในอนาคตอีกกว่า 1.2 พันล้านหุ้น ซึ่งเป็นแรงกดดันของฝ่ายบริหาร EA ในการสร้างผลประกอบการให้เติบโต
และไม่เพียงพลิกจากผลขาดทุนให้กลายเป็นผลกำไรเท่านั้น แต่ผลกำไรต้องเติบโตสูงเช่นเดียวกับที่เคยทำไว้ในอดีต เพื่อรองรับกับจำนวนหุ้นใหม่ที่เพิ่มขึ้น เพราะหากผลกำไรไม่เติบโตก้าวกระโดด เมื่อมีจำนวนหุ้นที่นำมาหารผลกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ค่าพี/อี เรโช ของ EA จะพุ่งขึ้นสูง จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 7 เท่า
ในระยะสั้นถือว่า EA ลุกขึ้นมาจากหลุมแล้ว ได้ปลดเปลื้องปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
แต่อนาคตยังต้องเฝ้าจับตาผลประกอบการ จะฟื้นหรือไม่ จึงยังทุ่มน้ำหนักกับ EA สุดตัวไม่ได้
