นโยบายสงครามการค้าและการตั้งกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ไม่ได้รุนแรง ดุดันเหมือนที่นักลงทุนทั่วโลกกังวลกันไว้ หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ตลาดหุ้นทั่วโลกจึงเขียวขจี ปรับตัวขึ้นยกแผง เว้นแต่ตลาดหุ้นไทย ที่ยังมีแรงกดดันจากปัจจัยภายใน ดัชนีหุ้นจึงไม่ได้ขยับขึ้นไปไหน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แทบทุกสำนักประเมินว่า ปีนี้หุ้นจะฟื้นตัวขึ้นจากปี 2567 โดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น การท่องเที่ยวสดใส มีแรงกระตุ้นจากมาตรการรัฐบาล และการลงทุนภาครัฐ จึงตั้งเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีที่ระดับ 1,500 จุด ซึ่งโบรกเกอร์บางสำนักมองโลกสวย คาดหมายว่าดัชนีหุ้นสิ้นปีอาจทะลุขึ้นไประดับ 1,660 จุด
แต่สถานการณ์ลงทุนที่เป็นจริง ตลาดหุ้นกำลังตกอยู่ในภาวะซบเซา ไม่สดใสเหมือนตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่ขานรับกับท่าทีของนายทรัมป์ที่อ่อนลงในนโยบายการตั้งกำแพงภาษี โดยดัชนีนับจากต้นปีปรับตัวลงต่อเนื่อง ท่ามกลางมลค่าซื้อขายหุ้นที่เบาบาง วันละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้บริษัทโบรกเกอร์ส่วนใหญ่แทบอยู่ไม่ได้ เพราะขาดทุนถ้วนหน้า จากค่านายหน้าซื้อขายที่ต่ำลง
สิ้นปี 2567 ดัชนีหุ้นปิดที่ 1,400.21 จุด แต่ล่าสุดวันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2568 ดัชนีปิดที่ 1,354.37 จุด ลดลงจากจุดปิดเมื่อสิ้นปีก่อนประมาณ 46 จุด สวนทางทิศทางตลาดหุ้นโลกที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
ปัจจัยภายในประเทศเป็นแรงกดดันสำคัญที่ทำให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นซบเซา เพราะนอกจากไม่มีข่าวดีและกระตุ้นความเชื่อมั่นแล้ว นักลงทุนยังกังวลกับสถานการณ์การเมือง ไม่มั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาล และกังวลผลกระทบภาวะเศรษฐกิจซบเซา
นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นติดต่อกัน 2 ปีแล้ว โดยระหว่างปี 2566 ถึง 2567 เทขายหุ้นกว่า 3.4 แสนล้านบาท และปี 2568 ไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมา มีแต่ความฝันลมๆ แล้งๆ ของโบรกเกอร์บางแห่งที่คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับมาเท่านั้น
เพราะนับจากต้นปี ต่างชาติเทขายหุ้นต่อเนื่องอีก 8,498 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนภายในประเทศชะลอการลงทุน ส่วนกองทุนวายุภักษ์ใช้เงินพยุงตลาดหุ้นไปมากแล้ว โดยวงเงินลงทุน 150,000 ล้านบาท คงเหลือเพียงไม่กี่หมื่นล้านบาท ไม่มากพอที่จะพลิกฟื้นตลาดหุ้นให้กลับสู่ความคึกคัก
ถ้านักลงทุนต่างชาติไม่กลับ และยังเทขายหุ้นต่อ แม้จะขายน้อยลงจาก 2 ปีที่ผ่านมาก็ตาม ตลาดหุ้นปีนี้คงไม่สดใส ดัชนีวิ่งไปไหนไม่ได้ไกล และอาจไม่ได้เห็นตัวเลขระดับ 1,500 จุดตามที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ตั้งเป้าหมายไว้
เศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2568 ยังคงไม่มีจุดขาย และไม่มีมาตรการใดที่เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ แม้แต่นักลงทุนภายในประเทศ
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่เงียบเหงาซบเซา ดัชนีแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆ ยังจะดำเนินต่อไป โดยไม่อาจคาดหมายว่า เมื่อไหร่จะถึงจุดเปลี่ยน เมื่อไหร่ดัชนีจะพลิกสู่ช่วงขาขึ้น
และอีกนานเพียงใดหุ้นจะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1ป400 จุดอีกครั้ง
ในระยะสั้น หุ้นมีแนวโน้มที่จะซึม หรือเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทาง เพราะขาดปัจจัยชี้นำ และไม่มีข่าวดีที่รอคอย
ดัชนีมีโอกาสถูกตรึงแถวระดับ 1,350 จุดไปอีกพักใหญ่ นักลงทุนที่อยากเก็บหุ้น ยังรอคอยจังหวะช้อนของถูกได้ ไม่ต้องรีบซื้อ