“แอสเสท เวิรด์” ได้ฤกษ์ลงเสาเอก “เวิ้งนาครเขษม เยาวราช” ประกาศทุ่มงบลงทุน 16,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในย่านไชน่าทาวน์ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวไอคอนิคแห่งใหม่ ด้วยการออกแบบร่วมสมัยผสานเอกลักษณ์ไทย-จีน เน้นอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์ เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจแห่งอนาคต พลิกโฉม เวิ้งนาครเขษม สู่แลนด์มาร์กระดับโลก คาดเปิดบริการปี 72
วานนี้ (23 ม.ค.) นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) (AWC) ได้ทำพิธีลงเสาเอก “เวิ้งนาครเขษม เยาวราช” โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่บนพื้นที่ 14 ไร่ หรือกว่า 22,400 ตารางเมตร ในย่านใจกลางเยาวราช ย่านเก่าแก่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ และศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการค้าที่สำคัญมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 นางวัลลภา กล่าวว่า โครงการ “เวิ้งนาครเขษม เยาวราช” จะใช้งบลงพัฒนาโครงการ 16,000 ล้านบาท เพื่อพลิกโฉมไชน่าทาวน์สู่มิติใหม่ภายใต้แนวคิด “Legacy of the Past, Inspiration of Tomorrow” เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจแห่งอนาคต สร้างสีสันและความมีชีวิตชีวาให้เยาวราชผ่านการออกแบบที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทย-จีน ด้วยพื้นที่ชอปปิ้งระดับพรีเมียม โรงแรมลักชัวรี 2 แห่ง ศาลาจีนร่วมสมัย และพื้นที่วัฒนธรรมเพื่อชุมชนและครอบครัว
“เราตั้งเป้าหมายว่าโครงการนี้จะเป็นอาคารสีเขียวตามมาตรฐานสากล ผสานแนวคิดความยั่งยืนเพื่อคุณค่าองค์รวมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างเยาวราชสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และการพักผ่อนอย่างครบวงจร ซึ่งจะสนับสนุนให้กรุงเทพฯ ก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนชั้นนำระดับโลก โดยโครงการมีกำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 72”
นางวัลลภา กล่าวว่า เวิ้งนาครเขษมถือเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่คู่กับกรุงเทพฯ มายาวนาน ด้วยเสน่ห์ของไชน่าทาวน์ที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมไทย-จีนอันทรงคุณค่า จะทำให้การพัฒนาโครงการ ‘เวิ้งนาครเขษม เยาวราช’ กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในฐานะโครงการมิกซ์ยูสแฟลกชิปแห่งแรกของ AWC เพราะด้วยขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดและใช้งบลงทุนสูงที่สุดเท่าที่เคยลงทุนมา ประกอบกับยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination ที่พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ครบวงจรสำหรับทุกคน
"ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลกอย่างเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป (IHG Hotels & Resorts) ผู้นำธุรกิจโรงแรมระดับโลก และไทย โอบายาชิ (Thai Obayashi) ซึ่งรับหน้าที่ก่อสร้างโครงการ รวมถึงชุมชนโดยรอบโครงการที่ให้การสนับสนุน จะช่วยให้ ‘เวิ้งนาครเขษม เยาวราช’ กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความภาคภูมิใจของชาวเยาวราชและคนไทย พร้อมร่วมสร้างกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวยั่งยืนชั้นนำระดับโลก"
สำหรับโครงการ “เวิ้งนาครเขษม เยาวราช” ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 14 ไร่ ใจกลางย่านเยาวราช ด้วยพื้นที่การพัฒนากว่า 135,000
ตารางเมตร ที่ออกแบบให้สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมไทย-จีนของย่านไชน่าทาวน์ผ่านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดั้งเดิมและการสร้างสรรค์องค์ประกอบใหม่ที่สอดคล้องกับความทันสมัยเพื่อพลิกฟื้นมรดกแห่งเยาวราช จะประกอบไปด้วยพื้นที่สำคัญ 3 ส่วน คือ
1.ศาลาจีน (Chinese Pavilion) ความสูง 8 ชั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของไชน่าทาวน์ที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เปิดให้ผู้คนได้เข้ามาสักการะเพื่อเสริมโชคลาภและความเป็นสิริมงคล รวมถึงพิพิธภัณฑ์เวิ้งนาครเขษมที่จัดแสดงภาพประวัติศาสตร์
2.โรงแรมระดับลักชัวรี (World-Class Hospitality) แห่งแรกของไชน่าทาวน์ จำนวน 2 โรงแรม รวมห้องพักกว่า 500 ห้อง ประกอบด้วย โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล จำนวน 300 ห้องพัก โดดเด่นด้วยอาคารหลักสูง 10 ชั้น และอาคารพาณิชย์เก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์โครงสร้างเดิม และปรับปรุงให้กลายเป็นห้องสวีทสุดหรู และห้องบอลรูมขนาดใหญ่กว่า 1,100 ตารางเมตรสามารถรองรับได้ถึง 750 คน และโรงแรมระดับลักชัวรีในเครือ IHG (Luxury Hotel) จำนวนกว่า 200 ห้องพัก บนพื้นที่อาคารหลักสูง 10 ชั้น และอาคารพาณิชย์อนุรักษ์บริเวณริมคลองโอ่งอ่าง
3.ศูนย์การค้าระดับไอคอนิค (Iconic HeritageAnd Luxury Retail) จุดหมายปลายทางอันโดดเด่นด้านไลฟ์สไตล์สำหรับนักท่องเที่ยวและทุกครอบครัวด้วยพื้นที่รวมกว่า 68,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่อาคารหลัก พื้นที่พลาซ่ากลางแจ้งขนาดใหญ่ใจกลางไชน่าทาวน์บริเวณอาคารพาณิชย์อนุรักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของเวิ้งนาครเขษม และพื้นที่ชั้นใต้ดินในฐานะหนึ่งในพื้นที่ชอปปิ้งใต้ดินขนาดใหญ่ ที่รวบรวมร้านค้าแบรนด์เนมหรูชั้นนำ ร้านค้าคอนเซ็ปต์ใหม่ ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ คาเฟ่ และร้านค้าท้องถิ่นในชุมชนที่คัดสรรมาเพื่อร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความเจริญรุ่งเรืองพื้นที่การค้าไทย-จีนในอดีต
นอกจากนี้ โครงการ “เวิ้งนาครเขษม เยาวราช” ยังได้รับการพัฒนาขึ้นโดยให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานอาคารสีเขียว (Green Building Standard) เพื่อผลักดันอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตชุมชนโดยรอบ