วาระสุดท้ายหุ้นบริษัท โพลาริส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR มาถึงแล้ว โดยนับจากวันที่ 28 มกราคมนี้ จะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกับนักลงทุนรายย่อยที่ถือหุ้นติดมือไว้จำนวน 5,975 ราย
POLAR เป็นหนึ่งในมหากาพย์แห่งการโกง มีประวัติการฉ้อฉลอันโชกโชน อดีตผู้บริหารบริษัทคนหนึ่งเคยประกาศกร้าว ใครที่กล่าวให้ร้ายโจมตีบริษัทจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่สุดท้าย กลุ่มผู้บริหารกลับถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษพร้อมพวก 11 ราย
ในความผิดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ และสร้างหนี้เทียมจำนวน 3.6 พันล้านบาท เพียงแต่คดีแทบไม่มีความคืบหน้าใด และยังไม่มีผู้บริหาร POLAR คนใดถูกลงโทษติดคุกติดตะราง ทั้งที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนรายย่อยจำนวนนับหมื่นราย โดยการผ่องถ่าย ไซฟ่อนเงินออกจากบริษัท โกงผู้ถือหุ้นจนกิจการล่มสลาย
หุ้น POLAR ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เนื่องจากไม่ส่งงบการเงินตามเวลาที่กำหนด และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูการดำเนินงาน เพื่อแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอน
แต่ไม่สามารถแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอนได้ ตลาดหลักทรัพย์จึงเปิดให้ซื้อขายหุ้นเป็นครั้งสุดท้าย 7 วันทำการ ระหว่างวันที่ 17 มกราคมถึง 27 มกราคม และเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียนในวันที่ 28 มกราคม
POLAR เดิมคือ บริษัท นครหลวงเส้นใย จำกัด (มหาชน) หรือ HTX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 16 สิงหาคม 2533 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ LL และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท วธน แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ WAT
สุดท้ายเปลี่ยนชื่อเป็น POLAR และเป็นจุดเริ่มต้นของหุ้นมหากาพย์แห่งการโกงทุกรูปแบบ โดยมีนักลงทุนรายใหญ่และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แวดวงตลาดหุ้นอยู่ในปัจจุบัน อยู่เบื้องหลังการวางแผนใช้ POLAR เป็นฐานที่มั่น สูบเงินจากนักลงทุน
แผนการปล้นเงินของนักลงทุนเริ่มต้นโดยการเพิ่มทุน อ้างสารพัดโครงการลงทุน สร้างภาพแนวโน้มธุรกิจไว้สวยหรู ล่อหลอกให้นักลงทุนใส่เงินลงมา เมื่อระดมทุนได้จะนำเงินซื้อทรัพย์สินในราคาสูง และหลายรายการ วางเงินมัดจำซื้อทรัพย์สินจำนวนมาก แต่ปล่อยให้เงินมัดจำถูกยึด โดยไม่มีหลักฐานการได้รับชำระคืนเงินค่ามัดจำแม้แต่กรณีเดียว
รวมทั้งการเงินค่ามัดจำซื้อบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด เจ้าของนิตยสาร A DAY จำนวน 120 ล้านบาท และเงินค่ามัดจำซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษกจำนวน 350 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษกรรมการ POLAR ประกอบด้วย นายญาณกร วรากุลรักษ์ นายพูนศักดิ์ ชุมช่วย นายอาสา นินนาท นายฐากร ทวีศรี นายดนุช บุนนาคและพวกรวม 11 ราย ในความผิดร่วมกันสร้างหนี้เทียมจำนวน 3.6 พันล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุดของคดีนี้คือ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้แถลงว่า การสอบสวนคดี POLAR แล้วเสร็จ และได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้ว โดยต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีความเห็นแย้งลงไปยังอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566
นับจากนั้น ไม่มีความคืบหน้าใดในคดี POLAR มีแต่ความเงียบ และไม่อาจคาดเดาได้ว่า สุดท้ายคดีจะถูกฆ่าตัดตอน โดยไม่มีกรรมการ POLAR คนใดรับโทษ เช่นเดียวกับความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับหุ้นคดีอื่นอีกนับสิบคดีหรือไม่
ส่วนคดีการปั่นหุ้น POLAR โดยมีผู้ถูกกล่าวโทษ 17 คน ศาลแพ่งได้ตัดสินลงโทษปรับผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้น 16 ราย จากผู้ถูกกล่าวโทษ 17 ราย โดยปรับเป็นเงิน 415 ล้านบาท และคาดว่า ก.ล.ต. ยังไม่ได้รับชำระค่าปรับเพื่อนำเงินส่งเข้ารัฐ
ช่วงปลายของ POLAR ผู้ถือหุ้นใหญ่เปลี่ยนมือเป็นกลุ่มนายทิศชวน นานาวราทร ซื่งถือรวมกันประมาณ 45% ของทุนจดทะเบียน และเข้าบริหารใน POLAR ซึ่งบริษัทกลายเป็นสำนักงานที่ว่างเปล่า เอกสารสำคัญ หลักฐานทางการเงินถูกทำลายทิ้งหมด พนักงานที่รู้เรื่องการดำเนินงานภายในออกหมด
นายทิศชวน พยายามค้นหาหลักฐานการฉ้อฉล ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก พยายามฟ้องร้องดำเนินคดี และตามรื้อฟื้นคดีเก่าๆ ที่อดีตผู้บริหารบริษัทสร้างไว้ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการดำเนินคดีกับอาชญากรหุ้นใน POLAR จากหน่วยงานรัฐ
และไม่อาจตามทรัพย์สินที่ถูกโยกย้ายออกไปคืนมาได้
การพ้นจากตลาดหุ้น ทำให้กลุ่มนายทิศชวนและผู้ถือหุ้นรายย่อยเกือบ 6 ชีวิตสูญเสียเงินลงทุนใน POLAR แทบทั้งหมด
ฆาตกรที่สังหารหุ้น POLAR จนย่อยยับ เหลือแต่ซากคากระดานหุ้น ยังคงลอยนวล โดยการชดใช้กรรมที่ก่อไว้กับนักลงทุนรายย่อยๆ เป็นเพียงนามธรรมเท่านั้น
เพราะไม่มีอดีตผู้บริหารหรือผู้อยู่เบื้องหลังการปล้นใน POLAR ต้องชดใช้กรรม
แต่ผลในรูปธรรมที่เกิดขึ้นและสัมผัสจับต้องได้คือ นักลงทุนรายย่อยรวมแล้วหลายหมื่นชีวิต ต้องหอบเงินที่เก็บหอมรอบริบไว้เอาไปให้โจรใน POLAR ปล้นจนหมด
ไม่มีการเยียวยาใดๆ กับผู้ถือหุ้นรายย่อย ไม่มีการพูดถึงมหากาพย์แห่งโคตรโกงใน POLAR เสียด้วยซ้ำ น่าเศร้าแทนเหยื่อผู้สูญเสียในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้จริงๆ
