ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นว่าเขาเปิดกว้างต่อการที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา จะเข้าซื้อกิจการแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ TikTok หากมัสก์สนใจ
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าวานนี้ (21 มกราคม พ.ศ. 2568) สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้แอปพลิเคชัน TikTok วิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้ชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคน ถูกระงับการใช้งานชั่วคราว เนื่องจากกฎหมายที่กำหนดให้ ByteDance บริษัทแม่สัญชาติจีน ต้องขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติมิฉะนั้นจะถูกแบน
ต่อมานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ได้ผ่อนปรนเงื่อนไขให้ TikTok สามารถใช้งานต่อได้ชั่วคราว โดยเขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมจะเปิดกว้าง หากเขา (มัสก์) ต้องการซื้อ" และเสริมว่า "ผมได้พบกับเจ้าของใหญ่ของ TikTok ดังนั้น สิ่งที่ผมคิดจะบอกกับใครบางคนคือ 'ซื้อแล้วมอบครึ่งหนึ่งให้กับสหรัฐอเมริกา'"
เมื่อวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไปอีก 75 วัน หลังจากที่ศาลสูงสหรัฐฯ ยืนยันว่านโยบายแบน TikTok เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
ในขณะเดียวกัน จีนได้ส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อข้อตกลง โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่าบริษัทต่าง ๆ ควร "ตัดสินใจด้วยตนเอง" เกี่ยวกับการดำเนินงานและข้อตกลงของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม TikTok ยังคงไม่สามารถดาวน์โหลดได้จากร้านค้าแอปพลิเคชันของ Apple และ Google ในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ผู้ใช้ที่ลบแอปไปแล้วไม่สามารถติดตั้งใหม่ได้
ขณะที่การเจรจาเกี่ยวกับการขาย TikTok ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีรายงานว่าอีลอน มัสก์ และนักลงทุนรายอื่น ๆ แสดงความสนใจในการเข้าซื้อกิจการ
นอกจากนี้ทรัมป์ยังได้ประกาศเตือนว่าหากจีนไม่อนุมัติข้อตกลง เขาอาจกำหนดภาษีศุลกากรสูงถึง 100% ต่อสินค้าจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐสั่งระงับแอปพลิเคชั่น tiktok ชั่วคราว ปรากฏว่าผู้ใช้งานบางส่วนได้หันไปเปิดบัญชีใช้งานในแอป ฯ “เสี่ยวหงซู” ซึ่งรวมตัวกันเรียกขานตัวเองว่า “ผู้ลี้ภัยติ๊กต็อก” โดยในวันอังคาร (14 ม.ค.) แอปเสี่ยวหงซู พุ่งขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง เป็นแอปที่มีผู้โหลดมากที่สุด
ขณะที่ด้านชาวเน็ตจีนก็ให้การต้อนรับเหล่า “ผู้ลี้ภัย TikTok” จากอเมริกากันคึกกัก มีการแลกเปลี่ยนภาษากันสนุกสนาน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม อีกทั้งมีการล้อเลียนประเด็นขัดแย้งการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐฯ การพูดคุยเสียดสีการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย การโจรกรรมข้อมูล
ทั้งนี้ ในภาษาจีน “เสี่ยวหงซู” (小红书 แปลว่าหนังสือเล่มแดงเล่มน้อย) โดยคำ “เสี่ยว แปลว่า เล็ก ส่วน “หงซู” แปลว่าหนังสือเล่มแดง "หงซู" เสียงคล้ายๆ กับ “หงสู่” (红薯) ที่แปลว่า “มันเทศ” ดังนั้น “เสี่ยวหงสู่” หรือ “มันเทศน้อย” จึงกลายมาเป็นเรียกชื่อเล่นของแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมรายนี้ของจีน เมื่อกลุ่มผู้ใช้ติ๊กต็อกจากอเมริกาแห่อพยพเข้ามายึดพื้นที่ในแอปเสี่ยวหงซู จนดูกลายเป็นแอปใหม่ของพวกฝรั่งตาน้ำข้าว ที่น่าจะเรียกว่า “แอปเสี่ยวหยางอี๋ว์” ซึ่งแปลว่า “มันฝรั่งน้อย”