ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศ "ลำดับความสำคัญของอเมริกาต้องมาก่อน" ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐแต่ไม่มีการกล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลหรือการจัดตั้งทุนสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์ที่เคยให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้
ตามรายงานของทำเนียบขาว (20 มกราคม) ทรัมป์ ปธน.สหรัฐ ได้ประกาศลำดับความสำคัญนโยบายการบริหาร "อเมริกาต้องมาก่อน" ประกอบด้วย การปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะ การส่งเสริมความเป็นอิสระด้านพลังงาน การปฏิรูประบบราชการ และการฟื้นฟู "ค่านิยมแบบอเมริกัน"
แม้ว่าในระหว่างการหาเสียง ทรัมป์จะสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล แต่ในลำดับความสำคัญที่ประกาศออกมา กลับไม่มีการกล่าวถึงสินทรัพย์ดิจิทัลแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์ในวงการเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในการได้รับยเลือกเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองของเขา
ก่อนหน้านี้ ตลาดคริปโตมีความคาดหวังว่าทรัมป์จะลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อจัดตั้งทุนสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์ แม้ว่าคำสั่งดังกล่าวจะไม่ได้ออกมาในวันที่ 20 มกราคม แต่ผู้เดิมพันใน Polymarket ยังคงเชื่อว่ามีโอกาสประมาณหนึ่งในสามที่ทุนสำรองนี้จะถูกจัดตั้งขึ้นภายใน 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งของทรัมป์
นอกจากนี้ ตลาดเดิมพัน Kalshi ยังแสดงให้เห็นว่าผู้เดิมพันเชื่อว่ามีโอกาสประมาณ 60% ที่ทุนสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์จะถูกจัดตั้งขึ้นภายในปีปฏิทินนี้
ทั้งนี้ในช่วง 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตลาดคริปโตมีความผันผวนอย่างมาก หลังจากที่ทรัมป์เปิดตัวเหรียญมีมของตัวเองบนบล็อกเชน Solana ซึ่งได้รับทั้งคำชมและคำวิจารณ์จากชุมชนคริปโต
โดยเหรียญมีมอย่างเป็นทางการของทรัมป์ (TRUMP) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 490% ใน 24 ชั่วโมงแรกของการซื้อขายเมื่อวันที่ 18 มกราคม กลายเป็นโทเค็นที่มีมูลค่าติดอันดับ 30 อันดับแรกในชั่วข้ามคืน ตามข้อมูลจาก CoinGecko มูลค่าตลาดรวมของโทเค็น TRUMP สูงถึงเกือบ 11 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่ราคาของบิทคอยน์ (BTC) ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยซื้อขายเกิน 109,000 ดอลลาร์ ก่อนพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ภายหลังได้ปรับตัวลงมาที่ประมาณ 104,000 ดอลลาร์
แม้จะมีความผันผวนระหว่างวัน แต่บิทคอยน์ได้ปรับตัวขึ้นเกือบ 50% นับตั้งแต่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งการปรับตัวขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะนำมาซึ่งยุคทองของคริปโต ด้วยนโยบายที่เอื้ออำนวยและความชอบธรรมทางการเมืองที่มากขึ้น