xs
xsm
sm
md
lg

สำนักงาน ก.ล.ต. ไทยเตรียมพิจารณา Bitcoin ETF และ Stablecoin ท่ามกลางการปราบปรามปมพนันผิดกฎหมายของ Polymarket

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เร่งตรวจสอบความเป็นไปได้ในการอนุญาตให้จดทะเบียน กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin (Bitcoin ETF) ในตลาดหลักทรัพย์ภายในประเทศเป็นครั้งแรก โดยพร้อมพิจารณาข้อเสนอเกี่ยวกับ stablecoin เพื่อสนับสนุนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

แผนพัฒนา Bitcoin ETF ในประเทศไทย

จากการเปิดเผยของสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม นางสาวพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลกำลังศึกษาความเหมาะสมในการอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันสามารถซื้อขาย Spot Bitcoin ในประเทศ

"ไม่ว่าผู้คนจะชื่นชอบหรือไม่ก็ตาม เราจำเป็นต้องเดินหน้าไปพร้อมกับการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโตทั่วโลก พร้อมสร้างความมั่นใจว่านักลงทุนของเรามีทางเลือกที่ปลอดภัยในสินทรัพย์ดิจิทัล"นางสาวพรอนงค์ เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุ

ในปัจจุบัน ก.ล.ต. อนุญาตให้มีการลงทุนใน Bitcoin ETF ผ่าน กองทุนรวม (fund-of-funds)ที่เปิดตัวโดย One Asset Management เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งเสนอการเข้าถึง Bitcoin ETF ในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียน Bitcoin ETF ภายในประเทศโดยตรงยังคงถูกปิดกั้น

การพัฒนา Stablecoin และแผนเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล

นอกเหนือจาก Bitcoin ETF ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอนุญาตให้บริษัทที่มีเครดิตเรทติ้งสูงสามารถออก stablecoinที่ได้รับการค้ำประกันโดยพันธบัตรองค์กร ซึ่งคาดว่าจะช่วยขยายการเข้าถึงตลาดตราสารหนี้

ซึ่งสอดรับกับการออกมาแสดงความเห็นของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบิดาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอแผนการออก สกุลเงินดิจิทัลที่ค้ำประกันโดยพันธบัตรรัฐบาล เพื่อให้บริการแก่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน รวมถึงการสร้าง แซนด์บ็อกซ์ Bitcoin ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนการใช้สกุลเงินดิจิทัลในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

 บทบาทของไทยในตลาดคริปโตระดับโลก 

รายงานจาก Chainalysis ประจำปี 2024 ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 16 ของโลกด้านการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ โดยมีบทบาทเด่นในบริการคริปโตสำหรับร้านค้าปลีก (อันดับที่ 15) และธุรกรรมแบบกระจายอำนาจ (อันดับที่ 19)

การปราบปราม Polymarket ศูนย์กลางแหล่งเดิมพันพนันคริปโตในไทยและระดับโลก 

ในขณะเดียวกัน กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอ.สธ.) ของไทย ประกาศแผนกลาวล้างและปิดแพล็ตฟอร์ม Polymarket  ตลาดพยากรณ์ที่ใช้สกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากพบว่าเป็นการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย

พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ผบช.สอท. ระบุว่า  "Polymarket ให้บริการเดิมพันที่หลากหลาย เช่น การเมือง กีฬา และเศรษฐกิจ แต่พบว่าการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการเดิมพันมากที่สุด ซึ่งการพนันไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย" โดยที่ผ่านมาการทำธุรกรรมผ่านสกุลเงินดิจิทัลสร้างความท้าทายต่อการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากธรรมชาติของบล็อกเชนที่ไม่เปิดเผยตัวตนและการดำเนินงานข้ามพรมแดน

นอกจากไทย ประเทศอื่นๆ ก็มีการดำเนินการกับ Polymarket เช่นกัน สิงคโปร์ปิดกั้นแพลตฟอร์มนี้เมื่อวันที่ 12 มกราคม ส่วนฝรั่งเศสเริ่มสอบสวนในเดือนพฤศจิกายน 2567 และไต้หวันเป็นประเทศแรกที่แบน Polymarket พร้อมจับกุมผู้ใช้ 17 ราย

อย่างไรก็ดีแม้จะเผชิญข้อจำกัดในหลายประเทศ แต่ Polymarket ยังคงมีปริมาณการซื้อขายสูง โดยข้อมูลจาก Dune Analytics ระบุว่าในช่วง 15 วันแรกของปี 2568 แพลตฟอร์มมีปริมาณการซื้อขายกว่า  515 ล้านดอลลาร์ โดยตลาดพยากรณ์ Super Bowl Championship 2025 เพียงแห่งเดียวดึงดูดปริมาณการซื้อขายได้มากกว่า  1.12 พันล้านดอลลาร์