xs
xsm
sm
md
lg

DTCENT ปี 68 รายได้โต 15-20% ทุกธุรกิจหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ เปิดแผนปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน อานิสงส์รายได้จาก GPS Tracking งานโครงการภาครัฐและเอกชนโตต่อเนื่อง ฟากบิ๊กบอสเผยเตรียมทุ่มงบลงทุน 300 ล้านบาท ขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในรูปแบบ M&A-ลงทุนในโครงการภาครัฐ การพัฒนา AI มาใช้ในผลิตภัณฑ์ พร้อมลุยเปิดศูนย์ DTC SHOP ให้ครบ 20 แห่ง ภายในปีนี้ หวังดันผลงานเติบโตในระยะยาว


นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2567) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% จากปีก่อน เนื่องจากงาน GPS Tracking งานโครงการของภาครัฐและเอกชนยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ เริ่มรับรู้รายได้จาก DTC SHOP เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าเปิดศูนย์ DTC SHOP ให้ครบ 20 สาขา ภายในปีนี้ โดยปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 15 สาขา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน และเพิ่มช่องทางสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income)

ในส่วนของศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ Vehicle Monitoring and Support Center ได้เปิดให้บริการงานมอนิเตอร์ให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว และส่วนงานด้านการอบรมความปลอดภัยอย่างครบวงจร เช่น การใช้รถใช้ถนน การขับขี่อย่างปลอดภัย และ Simulator ได้เปิดให้บริการกับกลุ่มลูกค้าเดิม และขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่

ทั้งนี้ งานด้าน IoT Solutions และระบบ AI ปัจจุบันได้รับงานพัฒนาโครงการเทศบาลนครรังสิตสู่เมืองอัจฉริยะ โดยใช้แอปพลิเคชันสำหรับเมืองอัจฉริยะ (Rangsit City App) และบริษัทวางแผนจัดทำโครงการ Smart City Solution, Smart AI Solution ให้บริการกับโครงการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายโครงการ ส่วนงานด้านระบบ BAMS (Business Activity Management System) ได้เปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการ 42 บริษัท

ขณะที่การทำงานร่วมกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ปัจจุบันมีการรับงานโครงการร่วมกัน ในส่วนของบริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ร่วมกันศึกษาการทำตลาดด้าน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics และบริษัทได้รับใบ Certificate IATF 16949 ระบบมาตรฐานการจัดการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผู้ผลิตยานยนต์เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“ในปี 2568 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในรูปแบบ M&A การลงทุนในโปรเจกต์ของรัฐบาล การพัฒนา Control Room และใช้ในการทำวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยการนำ AI มาพัฒนา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต จึงมั่นใจว่า แผนงานของบริษัทที่วางไว้จะช่วยสนับสนุนให้ DTCENT เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว” นายทศพล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น