'อารักษ์ สุธีวงศ์' รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (SCBX) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เดต้า เอกซ์ จำกัด (DataX) อัปเดตความคืบหน้ายานลูกนับแต่ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2564 เผยกลุ่มธุรกิจเจน 2 เริ่มเห็นดอกผลที่ชัดเจน ขณะที่เดต้า เอกซ์เริ่มเฟส 2 ก่อนเริ่มเห็นดอกผลธุรกิจในเฟส 3 ต่อไปในอีก 3-5 ปีข้างหน้า
**ย้อนที่มาที่ไป SCBX**
การก่อตั้งกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ในตอนนั้นเพื่อต่อยอดองค์กรของธนาคารไทยพาณิชย์ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยแบ่งธุรกิจในกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มเจนหนึ่งธุรกิจหลักที่มีความมั่นคงอยู่แล้ว เป็นรายได้หลักของกลุ่ม คือธนาคารไทยพาณิชย์ กลุ่มเจนสองคือกลุ่มที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต มีอย่างพวก Auto X ,Card X, มันนิกซ์ ตรงส่วนนี้ถือว่าเริ่มเห็นดอกผล คือในปีนี้จะกำไรทุกแห่งแล้ว มี Card X ที่ช้าหน่อยไตรมาส 4 ปี 2566 เพิ่งจะมีผลประกอบการกำไร และกลุ่มเจนสาม เป็นธุรกิจที่จะรองรับโลกในอนาคตจะหมุนไป ซึ่งยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นไปตามเทรนด์นั้นหรือไม่ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล หรือธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) เป็นต้น ซึ่งในอีก 3-5 ปีจะเห็นชัดขึ้น
และอีกกลุ่มคือ ส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะเอื้อหรือสนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ ที่ว่าเติบโตได้ดีที่สุดในรูปแบบของเขา เช่น เอสซีบี เดต้า เอกซ์ (Data X) เอสซีบี เทค เอกซ (Tech X) เป็นต้น
"เราเริ่มเห็นผลลัพธ์ต่างๆ เป็นรูปธรรมตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ตอนนี้เจน 2 มีผลประกอบการเป็นกำไรหมดแล้ว เจนสาม ยังติดลบบ้าง แต่น่าจะเห็นภาพที่ชัดขึ้นว่าจะไปในทิศทางไหน โดยปีนี้มีความคาดหวังว่ากำไรจากกลุ่มเจนสอง และสามจะอยู่ในระดับ Neutral หรือสามารถครอบคลุมเงินลงทุนด้านต่างๆ ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ลงทุนไปในด้านต่างๆ พอสมควร เช่น งานด้านวิจัย-พัฒนา งานด้านเดต้าต่างๆ ยังเป็นส่วนที่ถ่วงอยู่ ซึ่งหากทุกอย่างดำเนินไปตามแผนในระยะยาวจะทำให้สัดส่วนกำไรจากกลุ่มธุรกิจอื่นจะสูงกว่ากำไรจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์"
**พันธกิจเดต้า เอกซ์**
อีกส่วนหนึ่งที่ 'อารักษ์ สุธีวงศ์' ดูแลอยู่เต็มตัวในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คือบริษัทเอสซีบี เดต้าเอกซ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจในการบริหารจัดการฐานข้อมูลรวมของกลุ่ม โดย 'อารักษ์' กล่าวว่า เดต้าเอกซ์ทำหน้าที่พัฒนาและให้บริการการเข้าถึงเดต้าของกลุ่ม ดูตั้งแต่เรื่องการให้ความยินยอมจากลูกค้า การอัปเดตต่างๆ เพื่อทำหน้าที่รวบรวม-จัดการข้อมูล เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย สบายใจ และในต้นทุนถูกสุด เป็นเสมือนเดต้าเซนเตอร์ของกรุ๊ป ภารกิจแรกของเดต้า เอกซ์คือ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเดต้า ให้ทุกบริษัทนำข้อมูลมาจัดเก็บและสามารถนำมาใช้สลับกลุ่มได้ในต้นทุนที่ต่ำสุด
"เอสซีบี เอกซ์ มีเดต้าเยอะมาก ความท้าทายคือมันอยู่คนและนิติบุคคล ซึ่งตามข้อกฎหมายแล้ว นำมาใช้ร่วมกันได้ไม่ง่าย แล้วต่อไปช่องทางออนไลน์จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ การเจอกันระหว่างลูกค้ากับธนาคารหรืออื่นๆ น้อยลง ดังนั้น ดูแลผ่านเดต้าจึงเข้ามามีความสำคัญ แต่การจะนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีต้นทุนน้อยที่สุดเป็นเรื่องยาก หากไม่มีองค์กรตรงกลางที่เข้ามาบริหารจัดการ ซึ่งตรงนี้คืองานส่วนหนึ่งของเดต้า เอกซ์"
ภารกิจที่สอง การนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ เพราะข้อมูลหากเก็บไว้แล้วไม่ได้ใช้คือต้นทุน ต้องมีการนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาสิ่งที่ที่สามารถนำไปช่วยหน้างานได้ คือนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อจะได้มุมมองที่ 360องศา แล้วนำข้อมูลนั้นไปสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของทุกๆ ธุรกิจในกลุ่ม
ภารกิจที่สาม จะเป็นส่วนที่นอกเหนือจากการใช้กลุ่ม คือเราสามารถออกไปทำธุรกิจข้างนอกได้ โดยใช้รูปแบบเดียวกับการทำในภารกิจสอง แล้วทำเป็นแพลตฟอร์มขึ้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับบริษัทหลายบริษัท เช่น การนำเอาระบบเอไอไปใช้ในส่วนงานเพื่อลดต้นทุน ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทด้วย
ทั้งนี้ เดต้า เอกซ์ใช้เวลา 3 ปีไปกับภารกิจ 1 ปีนี้จะเข้าสู่ภารกิจ 2 อย่างเต็มรูปแบบในการนำเข้าข้อมูลไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ คือต้องทำให้เร็ว ดี และถูก แต่ภารกิจหนึ่งไม่ได้หยุด เพราะเมื่อมีพันธมิตรหรือธุรกิจมีการเคลื่อนไหวใดๆ ย่อมต้องมีข้อมูลใหม่ให้เราเก็บเพิ่ม แล้วฐานข้อมูลจะใหญ่ และนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
"เดต้า เอกซ์พยายามทำอยู่ใน 3 เรื่องด้วยกันคือ ด้านจัดการโครงสร้างพื้นฐานของข้อมูล เอาจัดมูลไปทำการวิเคราะห์เพื่อสร้างโซลูชันอะไรต่างๆ ขึ้นมา ในระยะสั้นเพื่อสนับสนุนธุรกิจในกลุ่มก่อน แต่เมื่อไปสู่จุดหนึ่งแล้วสามารถทำเป็นแพกเกจเป็นซอฟต์แวร์โซลูชันแล้วขายข้างนอกได้ ในธุรกิจเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน จะเป็นรายได้ของเดต้าเอกซ์แต่ตรงนั้นเป็นเรื่องระยะยาว ใน 1-3 ปีข้างหน้าเน้นสร้างแวลูให้กลุ่มก่อน จากนั้นค่อยไปว่ากันในอีกระยะ 3 หรือ 5 ปีข้างหน้า"
**ทุ่มงบวิจัย-พัฒนา 5% กำไร**
นอกจากนี้ เราให้ความสำคัญกับเรื่องของงานวิจัยและพัฒนา เพราะเราต้องมองตัวเองว่าไม่ใช่ผู้ที่ซื้อเทคโนโลยีมาใช้ แต่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้ แล้วต่อยอดเป็นธุรกิจได้ ซึ่งเดต้าเอกซ์ถือเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนให้กลุ่มไปสู่การเป็นเทคโนโลยีคอมปานีได้ จากเป้าหมายของกลุ่มที่ต้องการเป็น Regional Financial Technology Group ซึ่งมีอยู่ 3 ส่วนคือ เป็น Regional ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย สอง Technology Group คือไม่ใช่แค่แบงก์ สาม Financial Tech อย่างไรก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้น ตรงนี้จึงมีส่วนสำคัญ โดยเราตั้งงบราว 5% ของกำไรสุทธิเป็นเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนของเดต้าเอกซ์ ตอนนี้จะเน้นใน 3 เรื่อง คือ AI Blockchain และ Climate
"เราลองผิดลองถูกหลังการปรับโครงสร้างมา 2-3 ปีแล้ว ตอนนี้เราเห็นหลายอย่างแล้วว่าจะทำให้เกิดขึ้นอย่างไร ไม่ว่าจะการจัดนโยบายในการทำงานร่วมกัน การจัดสรรผลงานกันระหว่างบริษัทในกลุ่ม ซึ่งในส่วนของกลุ่มเจน 2 ในปีนี้ก็สำคัญที่จะเห็นถึงหลายสิ่งหลาอย่างที่เราทำมาอย่างเป็นรูปธรรม โครงสร้าง ยุทธศาสตร์องค์กรคิดว่าเราเริ่มนิ่งละ ต้องในเลเวลถัดไป ซึ่งเรามองว่า เรื่องที่ยากที่สุดเป็นเรื่องของทรัพยากรคน โลกหมุนเร็วมาก สร้างเจนใหม่ๆ ขึ้นมาให้ทัน ปัญหาหนักคือเราจะสร้างคนขึ้นมาตอบโจทย์สิ่งเหล่าที่เปลี่ยนไปทันมั้ย ไปพร้อมๆ กับอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรเราได้อีก"