ธนาคารเอชเอสบีซีเปิดมุมมองต่อภูมิภาคอาเซียน ชี้มีศักยภาพและโอกาสเติบโตที่โดดเด่นด้วยแรงหนุนจากการค้าเสรีระหว่างประเทศในภูมิภาค สะท้อนจากส่วนแบ่งการตลาดของอาเซียนในตลาดโลกกำลังขยายตัวในทุกมิติ ตั้งแต่การส่งออกสินค้า ธุรกิจบริการที่ลงทุนในสินทรัพย์ light-asset services ไปจนถึงภาคธุรกิจท่องเที่ยว ท่ามกลางความเสี่ยงของการค้าระหว่างประเทศที่เริ่มหันกลับสู่การพึ่งพาภายใน ผลักดันให้อาเซียนกำลังผงาดขึ้นเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า
นายอาริส ดาคาเนย์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) กล่าวว่า หลายคนมักมองข้ามความสำคัญของอาเซียนและลืมมองถึงการเติบโตของภูมิภาคนี้ โดยหากมองย้อนกลับไปในช่วงก่อตั้งอาเซียนในฐานะเวทีแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในภูมิภาคเมื่อปี 2510 นายกรัฐมนตรีลี กวน ยู ของสิงคโปร์เคยกล่าวว่า ภูมิภาคนี้เริ่มต้นด้วยความ “ไม่น่าสนใจ” แต่อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกันของประเทศในภูมิภาคอาเซียนช่วยลดอุปสรรคทางการค้าในภูมิภาคลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 รวมทั้งการค้าระหว่างประเทศในอาเซียนก็แทบไร้พรมแดน ส่งผลให้ภูมิภาคอาเซียนก้าวขึ้นมาเป็นฐานการผลิตและการค้าที่น่าสนใจตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ทั้งนี้ อาเซียนยังคงเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังที่รายงานนี้ระบุว่ายังมีศักยภาพอีกมากรออยู่
ดังจะเห็นได้จากมูลค่าเศรษฐกิจ 473 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2535 ปัจจุบันเศรษฐกิจของอาเซียนเติบโตถึง 3.63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเศรษฐกิจของประเทศอาเซียน-6 (ASEAN-6) ยังเพิ่มส่วนแบ่ง GDP โลกจาก 1.9% ในปี 2535 เป็น 3.5% ในปี 2566 และแนวโน้มในอนาคตมีศักยภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลจาก IMF World Economic Outlook ระบุว่า อาเซียนจะเติบโตเฉลี่ย 4.7% ต่อปี ในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่งผลให้เป็นหนึ่งในภูมิภาคเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก นอกจากนี้ อาเซียนยังคงดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ FDI ได้สูงสุดในเอเชีย ซึ่งส่วนแบ่งตลาดโลกของอาเซียนกำลังเพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ธุรกิจบริการที่ลงทุนในสินทรัพย์น้อย (light-asset services) ไปจนถึงภาคการท่องเที่ยว อีกทั้ง อาเซียนยังเป็นหนึ่งในภูมิภาคสำคัญที่มีส่วนแบ่งการส่งออกทั่วโลกเพิ่มขึ้น แม้อุตสาหกรรมการผลิตของจีนจะเติบโตอย่างมากก็ตาม
ทั้งนี้ ความน่าสนใจของอาเซียนได้ขยายไปไกลกว่าอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า เพราะภูมิภาคนี้ยังมีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจบริการที่เน้นความเชื่อมโยงกับผู้คน เช่น การท่องเที่ยว จากการที่ประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีหาดทรายที่สวยงาม วัฒนธรรมอาหารที่กำลังเติบโต และโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังอาเซียนเมื่อเปรียบเทียบกับทั่วโลกได้เพิ่มขึ้นจาก 4.9% ในปี 2549 เป็น 8.7% ในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยแนวโน้มยังชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาตินี้จะเพิ่มขึ้นต่อไปอีกในโลกยุคหลังโควิด-19 นอกจากนั้น อาเซียนยังประสบความสำเร็จในธุรกิจบริการที่ลงทุนในสินทรัพย์น้อย (light-asset services) เช่น นักสร้างสรรค์ผลงาน ศิลปินมืออาชีพ และบริการอื่นๆ ที่เพิ่มโอกาสในการแข่งขันในโลกดิจิทัล ซึ่งสัดส่วนการตลาดของอาเซียนในธุรกิจบริการที่ลงทุนในสินทรัพย์น้อยได้เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าตั้งแต่ปี 2548
"สิ่งที่ทำให้ประทับใจในภูมิภาคอาเซียนยิ่งขึ้น คือ แม้สัดส่วนประชากรในอาเซียนจะลดลงตั้งแต่ปี 2555 เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรทั่วโลก แต่การเติบโตของภูมิภาคกลับสูงขึ้น บ่งชี้ถึงคุณภาพของการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมและความสามารถในการสร้างมูลค่าในห่วงโซ่เศรษฐกิจ"
สำหรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายเศรษฐกิจที่จำกัดการนำเข้าจากประเทศอื่น (protectionism) ของการค้าทั่วโลก เอชเอสบีซีเชื่อว่าอาเซียนยังคงเป็นภูมิภาคที่ยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ด้วยการรวมตัวที่แข็งแกร่งของประเทศในภูมิภาค ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยการค้าเสรีและความสะดวกในการเดินทางภายในภูมิภาค ช่วยสนับสนุนให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่น่าจับตาในการขยายตลาดของภาคธุรกิจ ซึ่งสวนทางกับเทรนด์โลกและเป็นต้นแบบของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Integration) ที่โดดเด่น
อนึ่ง เศรษฐกิจของอาเซียน-6 เคยมีมูลค่า 473 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2535 แต่เมื่อปี 2566 ขนาดเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ได้เติบโตขึ้นเกือบ 7 เท่า เป็น 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนแบ่ง GDP โลกของอาเซียนเพิ่มขึ้นจาก 1.9% ในปี 2535 เป็น 3.5% ในปี 2566 และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ข้อมูลของ IMF World Economic Outlook ระบุว่า ส่วนแบ่ง GDP โลกของอาเซียนมีศักยภาพที่จะเพิ่มขึ้นถึง 4.0% ภายในปี 2572 โดยประมาณการ ซึ่งเอชเอสบีซีเชื่อว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาภูมิภาคที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ ทั้งนี้ ส่วนแบ่งทางการตลาดของอาเซียนในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นนั้นได้ครอบคลุมถึงหลากหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมทั้งจะมีประเทศในอาเซียนอย่างน้อยหนึ่งประเทศเป็นผู้นำในแต่ละกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้นๆ ด้วย