xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมหุ้นอาร์เจนตินายอดเยี่ยม แต่หุ้นไทยยอดแย่ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การจัดอันดับตลาดหุ้นทั่วโลกประจำปี 2567 ปรากฏว่า ตลาดหุ้นบัวโนสไอเรส ของประเทศอาร์เจนตินา เป็นม้านอกสายตา ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในอัตรา 63.5% รองลงมาคือตลาดหุ้นอิสราเอล อัตรา 34.5% และตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นอันดับ 3 ผลตอบแทน 24.9%

ส่วนตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นที่ผลตอบแทนติดลบ หรือตกต่ำ ถูกจัดอยู่ในตลาดหุ้นยอดแย่อันดับที่ 17 ของโลก โดยผลตอบแทนติดลบ 1.1% ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ผลตอบแทนติดลบประมาณ 15%

อาร์เจนตินา อาจเก่งกาจเรื่องกีฬาฟุตบอล เป็นแชมป์โลก 3 สมัย แต่ตลาดหุ้นน่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลก โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดโนโลก เฟื่องฟูทิ้งห่างตลาดหุ้นไทยชนิดไม่เห็นฝุ่น

ตลาดหุ้นอาร์เจนตินาฟื้นตัวพร้อมกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลงานการบริหารประเทศของผู้นำ ประธานาธิบดี ฆาปิเอร์ มิเลย์ โดยชื่อและนามสกุลถูกสะกดเป็นภาษาไทยที่ไม่ซ้ำกันถึง 4 ชื่อสกุล

อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่ล้มลุกคลุกคลาน ทั้งเศรษฐกิจและการเมืองมานานเกือบ 100 ปี มีการรัฐประหารนับครั้งไม่ถ้วน และพรรคการเมืองหรือผู้นำที่เข้ามาบริหารประเทศเต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชัน เช่นเดียวกับประเทศไทย

เศรษฐกิจอาร์เจนตินาเกิดวิกฤตอย่างต่อเนื่อง ปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง ประชาชนดำรงชีพอย่างฝืดเคือง

ประธานาธิบดีทีมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งคือ นายฮวน เปรอง ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงปี ค.ศ.1945 และมีภรรยาคนที่สองชื่อ อิเวต้า เปรอง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนยากจน ผู้ใช้แรงงาน โดยเฉพาะสตรีชาวอาร์เจนตินา แต่ต้องเสียชีวิตในปี 1952 ด้วยวัยเพียง 33 ปี ด้วยโรคมะเร็ง

ในปี 2524 อาร์เจนตินาได้ยกกำลังทหารขึ้นยึดเกาะฟอล์กแลนด์ซึ่งตกอยู่ภายใต้การยึดครองของอังกฤษ ก่อนที่อังกฤษจะส่งกองทัพเรือเข้ายึดเกาะคืน โดยทหารอาร์เจนตินายอมแพ้ ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

เพลงที่โด่งดังไปทั่วโลกจากเสียงร้องของ "มาดอนนา" นักร้องชาวอเมริกันคือเพลง DON” T CRY FOR ME ARGENTINA ซึ่งคนทั่วโลกรู้จักมากกว่าเพลงชาติอาร์เจนตินาเสียอีก

อาร์เจนตินาจมปลักกับวัฏจักรการเมืองน้ำเน่า ผู้นำประเทศขี้โม้ ขายฝัน และเป็นจอมโกงตัวฉกาจมานาน ผ่านการปฏิวัตินับครั้งไม่ถ้วน แต่ประเทศไม่เคยดีขึ้น ประชาชนไม่เคยได้อยู่กันอย่างสงบสุข นอกจนทนทุกข์ต่อปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูง จนกระทั่งการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566

นายฆาบิเอร์ มิเลย์ ผู้สมัครจากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ซึ่งไม่ได้อยู่ในความคาดหมายว่า จะเป็นผู้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ผลการเลือกตั้ง นายฆาบิเอร์กลับได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น เหนือผู้สมัครที่เป็นอดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้า

โดยได้รับเสียงสนับสนุน 55.69% ขณะที่อดีตประธานาธิบดี ได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 44.31% เท่านั้น

นายฆาบิเอร์ประกาศในตอนหาเสียง จะปราบการทุจริต ฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ แก้ปัญหาเงินเฟ้อ และจะใช้ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเงินสกุลหลักของประเทศแทนเงินเปโซ

เมื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2566 นายฆาบิเอร์ลงมือปฏิรูปประเทศตามที่หาเสียงไว้ โดยยุบหลายสิบหน่วยงานของรัฐบาล และตั้งเป้าปลดข้าราชประมาณ 75,000 คน เพื่อลดงบประมาณรายจ่ายของประเทศ โดยเริ่มปลดทันทีชุดแรก 25,000 คน

ประธานาธิบดีคนใหม่ของอาร์เจนตินามีบุคลิกเหมือนนายโดนัลด์ ทรัมป์ จนได้รับสมญา “ทรัมป์” แห่งอาร์เจนตินา และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้พบกับนายทรัมป์หลังนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

นายฆาบิเอร์ เลือกกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐฯ แต่ลดระดับความสัมพันธ์กับรัสเซีย และการค้ากับจีน

นโยบายเศรษฐกิจที่เข้มงวด เพื่อบูรณะประเทศ ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ลุกฮือขึ้นต่อต้านนายฆาบิเอร์ ในช่วงแรกๆ ที่บริหารประเทศ

แต่ผลงานในช่วงเวลาเพียงประมาณ 1 ปี ทำให้ประชาชนเพิ่มการสนับสนุนนายฆาบิเอร์ โดยปัญหาเงินเฟ้อในช่วงต้นปี 2567 ลดลงต่อเนื่อง จากปี 2566 ที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นถึง 143% และไตรมาสแรกปี 2567 เกินดุลการค้าเป็นครั้งแรก 1,820 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เติบโตถึง 3.9%

ตลาดหุ้นที่โตที่สุดในโลก เป็นภาพสะท้อนผลงานความสำเร็จในการบริหารประเทศของผู้นำอาร์เจนตินาคนปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่การคุยโวอย่างคนเพ้อเจ้อ แต่ฟื้นฟูประเทศไม่ได้เหมือนผู้นำประเทศไทย

ตลาดหุ้นเป็นกระจกเงาที่สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เป็นจริงที่สุด

ตลาดหุ้นที่ยอดแย่ 2 ปีติดต่อ เป็นตัวประจานความล้มเหลวการบริหารประเทศของานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ดัชนีหุ้นที่ตกต่ำ เงียบเหงา ซบเซา นักลงทุนจำนวนเกือบ 3 ล้านคนเจ๊งกันหมด กำลังตอกย้ำความสิ้นหวังในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร








กำลังโหลดความคิดเห็น