xs
xsm
sm
md
lg

JPMorgan คาดนักลงทุนยังมองบิทคอยน์และทองคำเป็นเครื่องป้องกันเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักวิเคราะห์จาก JPMorgan Chase ระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในทองคำและบิทคอยน์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าเงิน (debasement trade) จะยังคงมีอยู่ต่อไป เนื่องจากนักลงทุนมองหาวิธีป้องกันความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเงินเฟ้อ

ในบทวิเคราะห์ของ JPMorgan Chase เปิดเผยมุมมองของนักวิเคราะห์ ชี้ให้เห็นว่า ทองคำและบิทคอยน์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2567 ที่มีการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดคริปโตเป็นจำนวนมาก

โดยแนวโน้มนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในระยะยาว และความกังวลเกี่ยวกับการลดค่าเงินเนื่องจากการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลที่ยังคงสูงในหลายประเทศ

ที่มา: เจพีมอร์แกน
ล่าสุด นักลงทุนชื่อดังอย่าง Paul Tudor Jones ได้ลงทุนในบิทคอยน์และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ เนื่องจากกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเผชิญกับเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ รัฐบาลบางรัฐในสหรัฐฯ ยังเริ่มถือครองบิตคอยน์เพื่อป้องกันความไม่แน่นอนทางการคลัง

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา JPMorgan สังเกตเห็นว่ามูลค่าการเปิดสัญญาฟิวเจอร์สบิทคอยน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณว่านักลงทุนมองว่าทองคำและบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่คล้ายคลึงกัน

อัตราดอกเบี้ยเปิดของ BTC Futures ที่มา: CoinGlass
ในปี 2567 มูลค่าการเปิดสัญญาฟิวเจอร์สบิทคอยน์เพิ่มขึ้นจากประมาณ 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม เป็นมากกว่า 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม

นอกจากนี้ กองทุน ETF บิทคอยน์ในสหรัฐฯ ยังมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน

ขณะที่การไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันอาจส่งผลให้ความต้องการบิทคอยน์เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจดันราคาบิทคอยน์ให้สูงขึ้นในปี 2568