อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและซีอีโอของเทสลา ได้เปลี่ยนชื่อผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X เป็น "Kekius Maximus" เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2024 การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้เหรียญมีมธีมกบชื่อ "Kekius Maximus" (KEKIUS) บนเครือข่าย Ethereum มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก
จากการเปิดเผยของ dailyhodl ระบุว่าราคาของ KEKIUS พุ่งขึ้นจาก $0.00123 ในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ไปสู่จุดสูงสุดที่ $0.40 ในวันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 32,000%
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นราคาก็ปรับตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ $0.264 ในขณะที่มูลค่าตลาดของเหรียญนี้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า $250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเปลี่ยนชื่อของมัสก์เป็น "Kekius Maximus" สื่อถึงเทพเจ้ากบในตำนานอียิปต์ชื่อ "Kek" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่นิยมในวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ตและเกมเมอร์
นอกจากนี้ "Kek" ยังเชื่อมโยงกับมีม "Pepe the Frog" ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหรียญมีม PEPE ที่มีมูลค่าตลาดกว่า $8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
มัสก์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนเหรียญมีม เช่น Dogecoin (DOGE) และการกระทำของเขามักส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนชื่อครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ มัสก์เคยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการปั่นราคาของ DOGE แต่คดีดังกล่าวถูกยกฟ้องในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ศาลตัดสินว่าคำพูดของมัสก์เกี่ยวกับ DOGE เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นและไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องได้
การเปลี่ยนแปลงชื่อและโปรไฟล์ของมัสก์ในครั้งนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงและสร้างความสนใจในชุมชนคริปโตเคอร์เรนซีอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่นักเทรดรายหนึ่งสามารถเปลี่ยนเงินลงทุนเพียง 2,000 บาท ให้กลายเป็น 104 ล้านบาท ในเวลาเพียง 18 วัน ด้วยการลงทุนในเหรียญมีม “KEKIUS” บนเชน Ethereum โดยนักเทรดรายนี้เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเพียง 0.017 ETH (ประมาณ 2,000 บาท) โดยใช้เงินจำนวนดังกล่าว ซื้อเหรียญ KEKIUS จำนวน 10.17 ล้านโทเคน และหลังจากนั้นราคาก็ได้พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมูลค่าแตะ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ต่อมานักเทรดรายดังกล่าวเขาได้ตัดสินใจขายเหรียญ KEKIUS จำนวน 2.81 ล้านโทเคน ในราคาที่ได้กำไร 60.3 ETH (ประมาณ 6.8 ล้านบาท) แต่ถึงอย่างนั้น นักเทรดรายนี้ยังคงถือครองเหรียญ KEKIUS อยู่อีก 7.37 ล้านโทเคน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 97 ล้านบาท ดังนั้นรวมแล้วกำไรทั้งหมดที่เขาถือครองอยู่มากถึง 104 ล้านบาท ในเวลาเพียง 18 วัน
ขณะที่ในส่วนของ อีลอน มัสก์ หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อและภาพโปรไฟล์กลับมาเป็นโปรไฟล์เดิม ส่งผลทำให้ราคาของเหรียญมีมดังกล่าว ร่วงลงอย่างรุนแรงกว่า 90% ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง หลังการปรับปรุงโปรไฟล์ของอีลอน มัสก์
ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณาความเสี่ยงก่อนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูง
