ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ปี 2567 ปิดฉากลงที่ระดับ 1,400.21 จุด ลดลง -15.64 จุด หรือลดลง -1.10% เมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2566 ที่ระดับ 1,415.85 จุด ทำให้ผลตอบแทนตลาดหุ้นติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และมีแนวโน้มว่าอาจติดลบเป็นปีที่ 3 ติดต่อ
เพราะกูรูหุ้นหลายคน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายแห่งประเมินว่า ตลาดหุ้นปี 2568 มีโอกาสเกิดความผันผวนและซบเซาเช่นเดียวกับปีที่เพิ่งผ่านพ้น
ตลาดหุ้นเป็นกระจกเงาที่สะท้อนเศรษฐกิจ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุน และตลาดหุ้นปี 2567 ที่ยังฟุบอยู่ เป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ฟื้น นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ต่างชาติยังเทขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่องอีก 1.47 แสนล้านบาท รวมทั้งยังมีผลกระทบจากสงครามที่ปะทุขึ้นในหลายจุด
สถานการณ์แวดล้อมตลาดหุ้นปี 2568 ยังเลวร้ายเหมือนเดิม เศรษฐกิจโลกไม่สดใส เศรษฐกิจไทยไม่มีสัญญาณฟื้น สงครามในหลายพื้นที่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น นักลงทุนต่างชาติไม่อาจคาดหวังการกลับมา และยังมีความกังวลในผลกระทบจากนโยบายการขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคมนี้
ทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 2568 โบรกเกอร์จึงทำนายว่าจะไม่สดใส โดยส่วนใหญ่ประมาณการดัชนีปลายปีนี้ระดับ 1,400-1,500 จุด แต่มีโบรกเกอร์บางแห่งมองโลกสวย ทำนายว่าดัชนีปลายปีจะขึ้นไปแตะระดับ 1,600 จุด
รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ล้มเหลวในการปลุกตลาดหุ้นให้ฟื้นไปแล้ว รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีแนวโน้มที่จะล้มเหลวในการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนอีกคน
เพราะตลอดระยะเวลาเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีมาตรการใดกระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้นได้
ดัชนีหุ้นที่ปักหัวลงกำลังเป็นจุดอ่อนของรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เช่นเดียวกับภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก
นักลงทุนในตลาดหุ้นเริ่มสิ้นหวังกับรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง โดยดัชนีที่ดิ่งลงกลายเป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวผลงานทางด้านเศรษฐกิจและการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน
ความตกต่ำของตลาดหุ้นจะถูกหยิบยกเป็นเป้าโจมตีความล้มเหลวในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้
ปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ปัญหาความตกต่ำของตลาดหุ้น อาจเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้รัฐบาลอุ๊งอิ๊งอายุสั้นลง หรืออยู่ได้ไม่ครบวาระ
นักลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยขาดทุนจากการลงทุนในตลาดหุ้นมาหลายปีแล้ว โดยช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา มียอดซื้อหุ้นสะสมรวมกันประมาณ 7 แสนล้านบาท และเป็นหุ้นต้นทุนสูงที่รับไม้ต่อจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติ จึงต้องแบกภาระขาดทุนกันถ้วนหน้า
แน่นอนปี 2568 ยังไม่ใช่ปีที่ดีของตลาดหุ้น นักลงทุนรายย่อยในประเทศจึงไม่มีโอกาสถอนทุนคืน และมีความเสี่ยงสูงสำหรับการนำเงินมาลงทุนซื้อหุ้น
เริ่มต้นศักราชใหม่ปี 2568 ตลาดหุ้นประเดิมซื้อขายวันแรก กระดานหุ้นแดงเถือก ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าถึงนักลงทุนให้ระมัดระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตลอดปีนี้ และถ้าไม่จำเป็น ควรเว้นวรรคการลงทุนชั่วคราว หรือมีหุ้นต้นทุนสูงอยู่ไม่ควรซื้อหุ้นเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุนเดิม เพราะอาจขาดทุนหนักกว่าเดิม
ตลาดหุ้นปีนี้จะเป็นอีกปีที่นักลงทุนต้องทนทุกข์กับบรรยากาศการลงทุนที่ซบเซา ผันผวน ไม่เห็นโอกาสการทำกำไรจากการซื้อขายหุ้น ขณะที่ปัจจัยความเสี่ยงมีอยู่เต็มไปหมด
คำเตือนจากกูรูหุ้นคือ นักลงทุนหน้าใหม่ อย่าได้เดินเข้ามาในตลาดหุ้น เพราะจะนำเงินมาทิ้งเสียเปล่าๆ