xs
xsm
sm
md
lg

รวม 10 หุ้นเน่าปี 67 ทุบราคายับ! EA มาร์เกตแคปวูบ 1.65 แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยปี 2567 ไม่สดใสนัก แม้จะมีแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ แต่ยังมีหลายปัจจัยกดดัน ทั้งความผันผวนจากเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง ค่าเงินบาท ความผันผวนเศรษฐกิจโลก และเมื่อไปส่องดูหุ้นในตารางที่มีมาร์เกตแคปเกินหมื่นล้าน แล้วมีอัตราผลตอบแทนเป็นลบสูงสุด 10 อันดับ

1.EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้น ปี 67 คือ -91.00% (สิ้นปี 66 ปิด 44.25 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 3.98 บาท ลดลง 40.27 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52 สัปดาห์คือ 32.28/2.14 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 165,052.50 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 14,779.10 ล้านบาท ลดลง 150,273.40 ล้านบาท ค่า P/E 9.80 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 3.77%

EA ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ประจำปี 2567 โดยจะอยู่ในดัชนี DJSI Emerging Markets ซึ่งเป็นมาตรฐานการประเมินความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจระดับสากล ตอกย้ำความเป็นเลิศและการดำเนินธุรกิจพลังงานสะอาด นับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในระดับสากล

2.THG บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้น ปี 67 คือ -70.69% (สิ้นปี 66 ปิด 54.25 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 15.90 บาท ลดลง 38.35 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 56.25/13.40 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 45,975.11 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 13,474.73 ล้านบาท ลดลง 32,500.38 ล้านบาท ค่า P/E -เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 2.85%

THG งบไตรมาส 3 ปี 2567 รายได้ 2,526 ล้านบาท พลิกขาดทุน 352 ล้านบาท ต้องตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากลูกหนี้ที่คาดว่าจะเบิกจ่ายไม่ได้จากหน่วยงานรัฐ และรายได้ รพ.ธนบุรี บำรุงเมืองไม่เข้าเป้า รวมถึงมีการปรับโครงสร้างการเงิน

3.SCAP บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -55.95% (สิ้นปี 66 ปิด 3.52 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 1.52 บาท ลดลง 2.00 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 3.71/1.01บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 22,901.95 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 10,087.27 ล้านบาท ลดลง 12,814.68 ล้านบาท ค่า P/E 16.14 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 0.15%

ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 5,951.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิรวม 545.40 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 33,011.95 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายบริษัทที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพ

4.KCE บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -55.09% (สิ้นปี 66 ปิด 55.00 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 24.70 บาท ลดลง 30.30 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 56.25/21.30 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 65,014.87 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 29,197.58 ล้านบาท ลดลง 35,817.29 ล้านบาท ค่า P/E 15.89 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 5.24%

บล.ทิสโก้ ระบุว่า การฟื้นตัวในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับปานกลาง โดยยอดขายที่อ่อนแอมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการในปี 68 โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่ไม่น่าตื่นเต้นเพียง 7-12%

5.EPG บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -53.49% (สิ้นปี 66 ปิด 8.30 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 3.86 บาท ลดลง 4.44 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 8.50/3.60 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 23,240.00 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 10,808.00 ล้านบาท ลดลง 12,432.00 ล้านบาท ค่า P/E 13.22 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 5.58%

EPG ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ระดับ “AA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้ง บริษัทได้รับคะแนนการประเมิน การกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย

6.FORTH บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -53.48% (สิ้นปี 66 ปิด 23.00 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 10.70บาท ลดลง 12.30 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 23.90/8.80 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 21,513.62 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 10,008.51 ล้านบาท ลดลง 11,505.11 ล้านบาท ค่า P/E 44.08 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 4.39%

ในปี 2567 ผลักดันตู้ที่ได้รับการอัปเกรดแล้วกลับสู่ตลาดและพร้อมให้บริการลูกค้าทุกกลุ่ม โดยมุ่งเน้นวางตู้เต่าบินในทำเลที่มีศักยภาพที่ดี ซึ่งทางบริษัทเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ายังมีทำเลดีๆ อีกมาก พร้อมกับการนำข้อมูล (Big data) มาวิเคราะห์เพื่อทำการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงมากยิ่งขึ้น

7.HANA บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -52.58% (สิ้นปี 66 ปิด 53.25 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 25.25 บาท ลดลง 28.00 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 55.00/23.00 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 47,145.77 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 22,355.50 ล้านบาท ลดลง 24,790.27 ล้านบาท ค่า P/E 18.50 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67คือ 3.92%

โบรกฯ เชื่อว่า HANA จะได้รับประโยชน์จากทั้งสองฝ่ายในสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เนื่องจากมีโรงงานตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และสหรัฐฯ ความยืดหยุ่นนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถดึงดูดและรักษาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าได้

8.RBF บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -51.37% (สิ้นปี 66 ปิด14.60 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 7.10 บาท ลดลง 7.50 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 14.60/5.00 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 29,200.00 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 14,200.00 ล้านบาท ลดลง 15,000 ล้านบาท ค่า P/E 26.77 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 2.50%

โบรกฯ คาด RBF การฟื้นตัวของยอดขายในต่างประเทศและยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรในงวดครึ่งหลังปี 67 หลังจากช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการโตต่ำกว่าคาด เนื่องจากยอดขายในจีนพลาดเป้า และ RBF ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่เน้นเพิ่มยอดขายในตลาดอื่นแทนและได้ลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ

9.TOP บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -47.91% (สิ้นปี 66 ปิด 53.75 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 28.00 บาท ลดลง 25.75 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 60.75/24.50บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 120,068.66 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 62,547.39 ล้านบาท ลดลง 57,521.27 ล้านบาท ค่า P/E 6.12 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 12.25%

ผู้บริหารยันการเพิ่มงบประมาณลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ประมาณ 63,028 ล้านบาท เชื่อว่าเพียงพอต่อการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ โดยได้ศึกษาและประเมินร่วมกับที่ปรึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้วยความระมัดระวังว่า สามารถดำเนินโครงการนี้ได้ตามงบประมาณที่วางไว้

10.DITTO บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -46.79% (สิ้นปี 66 ปิด 27.25 บาท ณ 27 ธ.ค.67 ปิด 14.50 บาท ลดลง 12.75 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 29.50/10.90 บาท) มาร์เกตแคปสิ้นปี 66 คือ 18,004.45 ล้านบาท ณ 27 ธ.ค.67 มาร์เกตแคป 10,061.74 ล้านบาท ลดลง 7,942.71 ล้านบาท ค่า P/E 23.38 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.71%

บริษัท สยาม ทีซี เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ DITTO ถือหุ้น 99.99% ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสินทรัพย์ป่าสมบูรณ์ต่อประชาชนครั้งแรก มูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 480,000,000 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น