บมจ.พี เอ อี เทคนิคอล เซอร์วิส (PTS) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ การลงทุนอื่นๆ และการขยายธุรกิจของบริษัท
PTS ดำเนินธุรกิจหลักในการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมอิสระ (Third Party Engineering Service) ในด้านการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Non-Destructive Testing : NDT) แบ่งเป็นการทดสอบโดยไม่ทำลายขั้นพื้นฐาน (Conventional NDT) และการทดสอบโดยไม่ทำลายขั้นสูง (Advanced NDT) รวมถึงการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ ซึ่งบริษัทได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ทดสอบและตรวจสอบจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 และ ISO 45001 โดยสามารถดำเนินงานในทุกอุตสาหกรรมและภาคส่วน เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงงาน ก่อสร้าง การขนส่ง และการผลิตไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับรายงานการตรวจสอบที่มีความถูกต้องและแม่นยำระดับสูงด้วยเครื่องมือและขั้นตอนการตรวจสอบที่ได้มาตรฐาน
บริษัทให้บริการเฉพาะทางด้านการทดสอบโดยไม่ทำลาย เพื่อให้ทราบถึงคุณภาพของชิ้นงานที่ถูกทดสอบโดยไม่ทำให้โครงสร้างมีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ทั้งก่อนการใช้งาน (New Construction) ระหว่างการใช้งาน (In Service) และตรวจสอบระหว่างหยุดโรงงานเพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ (Turnaround หรือ Shutdown) ข้อมูลที่ได้สามารถนำไปประเมินความเหมาะสมในการใช้งานของอุปกรณ์ชิ้นงาน เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ จะไม่เกิดความเสียหายในระหว่างการผลิต จนส่งผลให้กระบวนการต้องหยุดชะงัก เช่น การตรวจสอบวัสดุและชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ของงานก่อสร้าง โครงสร้างโลหะเหล็กขนาดใหญ่ หม้อน้ำ ระบบท่อลำเลียงก๊าซ น้ำมัน สารเคมี และถังรับแรงดันสูง ทั้งบนฝั่งและในทะเล เป็นต้น โดยมีอุปกรณ์ตรวจสอบและตรวจวัดแบบเคลื่อนที่ที่สามารถใช้ในโรงงานหรืองานสนาม เพื่อการบริการที่รวดเร็วตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า รวมถึงมีผู้ปฏิบัติการที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านการทดสอบโดยไม่ทำลาย ซึ่งได้รับการอบรมและฝึกฝนอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล เช่น การทดสอบด้วยการฉายรังสี (Radiographic Testing) การทดสอบโดยใช้คลื่นอัลตราโซนิก (Ultrasonic Testing) การทดสอบโดยใช้น้ำยาแทรกซึม (Liquid Penetrant Testing) การทดสอบด้วยผงอนุภาคแม่เหล็ก (Magnetic Particles Testing) การตรวจสอบด้วยสายตา (Visual Inspection Testing) เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทเป็นผู้ให้บริการตรวจสอบและรับรองคุณภาพ เพื่อประเมินผลและออกรายงานเพื่อรับรองสภาพและต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์ตามมาตรฐาน เกณฑ์ ข้อกำหนด และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การตรวจตามวาระ/ครบวาระการใช้งานถังน้ำมัน ถังก๊าซ ระบบท่อน้ำมัน หม้อไอน้ำ เป็นต้น หรือการขอใบอนุญาตใช้งานตามกฎหมาย เช่น ใบอนุญาตใช้งานระบบถังน้ำมัน ระบบไฟฟ้า รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงหรือสารเคมีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและต้องขออนุญาตใช้งาน โดยผู้ปฏิบัติการที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง รวมถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีขั้นสูง
บริษัทมีทุนจดทะเบียน 150,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่เรียกชำระแล้วจำนวน 110,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 220,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 ก.ย.67 มีกลุ่มนายทิวา ศิวะภิญโญยศ ถือหุ้น 152,609,500 หุ้น คิดเป็น 69.37% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 50.87% บริษัท Victoria International Petroleum Corp Company จำกัด 44,000,000 หุ้น คิดเป็น 20.00% จะลดเหลือ 14.67%
ผลประกอบการปี 64-66 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 232.25 ล้านบาท 275.09 ล้านบาท และ 313.976 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 14.69 ล้านบาท 19.16 ล้านบาท และ 21.44 ล้านบาท ตามลำดับ งวด 9 เดือนแรกของปี 67 มีรายได้จากการให้บริการ 205.47 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 14.13 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 232.50 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 19.63 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 ก.ย.67 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 255.97 ล้านบาท หนี้สินรวม 62.13 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 193.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี