ก.ล.ต. ของฟิลิปปินส์ได้เสนอกฎใหม่สำหรับผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัล โดยเน้นที่ความโปร่งใส การเสนอขายต่อสาธารณะ และแนวทางปฏิบัติทางการตลาด
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ (SEC) ได้เผยแพร่ร่างกฎระเบียบของ SEC เกี่ยวกับผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล (CASP Rules) เพื่อขอความคิดเห็นจากสาธารณชน ข้อเสนอดังกล่าวระบุกรอบการกำกับดูแลสำหรับภาคส่วนคริปโตที่กำลังขยายตัวของประเทศ ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ประเทศฟิลิปปินส์ได้กลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ โดยมีประชากรที่เป็นคนหนุ่มสาวและเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ปี เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลดึงดูดผู้ใช้มากกว่า 562 ล้านคนทั่วโลก SEC ของฟิลิปปินส์จึงตั้งเป้าที่จะจัดการกับความเสี่ยง เช่น การฉ้อโกงและการจัดการตลาด ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมสภาพแวดล้อมสำหรับนวัตกรรม โดยร่างใหม่ครอบคลุมการเปิดเผยข้อมูล การเสนอขายต่อสาธารณะ การซื้อขาย และกิจกรรมการตลาด
นอกจากนี้กฎเกณฑ์ที่เสนอกำหนดให้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นการแสดงมูลค่าในรูปแบบดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจกิจกรรมต่างๆ เช่น การซื้อขาย การดูแล และการเสนอขายต่อสาธารณะของสินทรัพย์เหล่านี้จะถูกควบคุมภายใต้กรอบงานใหม่ ซึ่งผู้ให้บริการจะต้องลงทะเบียนกับ SEC และได้รับใบอนุญาตซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการ (FCPA) นอกจากนี้ ยังระบุข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำและภาระผูกพันตามกฎระเบียบอื่นๆ ไว้ด้วย
ขณะที่หน่วยงานที่วางแผนเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่อสาธารณะจะต้องส่งเอกสารการเปิดเผยข้อมูลโดยละเอียดให้กับ SEC อย่างน้อย 30 วันก่อนทำการตลาด เอกสารเหล่านี้จะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับโปรไฟล์ของผู้เสนอขาย เทคโนโลยีพื้นฐาน ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และคำเตือนเกี่ยวกับการสูญเสียมูลค่าที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ร่างกฎเกณฑ์ของ SEC เน้นย้ำถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และป้องกันการฟอกเงิน ผู้ให้บริการจำเป็นต้องปรับระบบให้สอดคล้องกับแผนความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติ และดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน การป้องกันการซื้อขายข้อมูลภายใน และแนวทางปฏิบัติป้องกันการปั่นราคาตลาดยังถือเป็นส่วนสำคัญของกรอบการทำงานนี้ด้วย
โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมนี้ ได้รับเชิญให้ร่วมแสดงมุมมองความคิดเห็นของตนเกี่ยวกับร่างกฎภายในวันที่ 18 มกราคม 2568