xs
xsm
sm
md
lg

ชุมชนcpax

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา

ชุม
หุ้นTopยังฝุ่นตลบ
- สถานการณ์ความปั่นป่วนของหุ้นกลุ่มCPเริ่มสงบลงแล้ว หลังบริษัท ซีพี แอ๊กซ์ตร้า จำกัด(มหาชน)หรือCPAXT ชี้แจงการนำเงินกว่า8 พันล้านบาท ลงทุนในโครงการเดอะฟอร์เรสเทียส์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นรายการเกี่ยวโยงกัน
- แต่สถานการณ์หุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)หรือTOP ยังคงฝุ่นตลบอบอวนอยู่ แม้ผู้บริหารบริษัท จะออกมาชี้แจงถึงความโปร่งใสในโครงการพลังงานสะอาดหรือโครงการCFP มูลค่า160,279 ล้านบาทซ้ำหลายรอบแล้วก็ตาม
- ข่าวร้ายล่าสุดของโครงการCFPคือ การเพิ่มวงเงินลงทุนอีก63,028ล้านบาทและดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้างอีก17,922ล้านบาท ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการถล่มขายหุ้นTOPอีกระรอก จนราคาร่วงลงสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ4 ปี
-ฝ่ายบริหารTOPออกคำชี้แจงด่วนเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า การเพิ่มเงินลงทุนในโครงการCFPอีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท จะไม่มีการเพิ่มทุน แต่จะใช้วงเงินกู้จากสถาบันการเงิน การออกหุ้นกู้ หรือออกตราสารกึ่งทุน และการเพิ่มเงินลงทุน จะไม่ส่งผลกระทบใดต่อโครงการ โดยการจ่ายเงินปันผลจะยังเป็นไปตามปกติ
- แต่คำชี้แจงไม่อาจหยุดยั้งแรงขายหุ้นของนักลงทุนได้ โดยหุ้นTOP ยังคงปักหัวลงต่อ โดยวันจันทร์ที่23 ธันวาคมปิดการซื้อขายที่ 25.50 บาท ลดลง1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,758.03 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่งประจำวัน
- โครงการCFP กำหนดแล้วเสร็จต้นปี2566 แต่เกิดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้โครงการล่าช้า นอกจากนั้นยังมีปัญหาผู้รับเหมาหลัก ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าในต่างประเทศ ไม่ยอมจ่ายเงินให้ผู้รับเหมาช่วง ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาในประเทศ จนเกิดการประท้วงเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารTOPช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน
-แต่ฝ่ายบริหารTOP ไม่อาจเจรจาหรือกดดันให้บริษัทรับเหมาหลัก จ่ายเงินให้บริษัทรับเหมาไทยที่รับเหมาช่วงได้ และแม้บริษัทรับเหมาไทยจะประท้วง และยื่นข้อร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดให้ความช่วยเหลือได้ ผู้รับเหมาช่วงจึงประกาศหยุดก่อสร้างโครงCFP
-โครงการจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร จะล่าช้ากว่ากำหนดอีกกี่ปี ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากฝ่ายบริหารTOP แต่บทวิเคราะห์จากโบรกเกอร์แทบทุกสำนักลงความเห็นแล้ว
-การอัดฉีดเงินอีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท บวกดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้างอีกกว่า1.7 หมื่นล้านบาท และระยะเวลาการก่อสร้างที่ยืดเยื้ออีกหลายปี จะทำให้แผนลงทุนในโครงการCFPจะไม่เหมือนเดิม
-ผลตอบทานจากโครงการจะถูกตัดทอนลง เช่นเดียวกับผลประกอบการของTOP ซึ่งจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่แรก เมื่อเริ่มโครงการCFP และแน่นอน เป้าหมายราคาหุ้นถูกหั่นลงมา
-ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ของหลายโบรกเกอร์ ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นTOP ต่ำกว่า30 บาท และบางโบรกเกอร์หั่นราคาเป้าหมายเหลือเพียง21 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายบนกระดาน
-จากราคาประมาณ60บาท TOPดิ่งลงมาม้วนเดียว เหลือเพียง 25.50 บาท ซึ่งอาจดูเหมือนว่า ราคาลงมาต่ำติดพื้นแล้ว แต่เนื่องจากยังมีโจทย์ใหญ่ในความไม่ชัดเจนของผลกระทบโครงการCFP ทั้งปัญหาผู้รับเหมาหลักที่มีปัญหาสภาพคล่อง และเบี้ยวเงินนับหมื่นล้านบาทของผู้รับเหมาช่วง ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย
- คำถามของนักลงทุนคือ การก่อสร้างโครงการCFPที่จะต้องเนิ่นนานเกินกำหนดไปอีกกี่ปี และการใส่เงินอักฉีดเพิ่มอีกกว่า 6 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกกว่า1.7 หมื่นล้านบาท สุดท้ายผลตอบแทนจากโครงการCFPจะสวยหรูเหมือนที่ผู้บริหารTOPฝันไว้หรือไม่
-ราคาหุ้นTOPที่ลงมาลึกสุดกู่ จึงยังมีความเสี่ยงที่จะมุดลงจมก้นเหวได้อีกเหมือนกัน