คลังหวั่นซ้ำรอยทำรัฐบาลล้ม เตรียมสรรหาประธานกรรมการ ธปท.คนใหม่แทน “โต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง หลังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีตกคุณสมบัติ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กฤษฏีกาตีความว่า การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้ส่งรายชื่อประธานกรรมการและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความทางกฎหมาย และตรวจสอบคุณสมบัติ คือ นายกิติรัตน์ ณ ระนอง และนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปรากฏว่าจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่ผ่านคุณสมบัติที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ที่ขัดคุณสมบัติของการเป็นกรรมการแบงก์ชาติ โดยไม่ได้ลาออกจากกรรมการบริษัทแห่งหนึ่งที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคณะกรรมการสรรหาได้เปลี่ยนเป็นนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดต้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยข้อมูลต่อไป
"มีการยืนยันทางกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่ผ่านคุณสมบัติ รายละเอียด รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นอำนาจชี้แจงหรือไม่ก็ได้ ซึ่งคงต้องมีการสรรหากันใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดือนมกราคม 2568"
ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ว่าเรื่องดังกล่าวอาจล่าช้า เพื่อให้การตรวจสอบมีความละเอียดรอบคอบ หลังจากนั้นค่อยนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ต่อไป
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ได้มีการพิจารณากันหลายรอบ โยคิดปัญหาเรื่องการเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามการเป็นกรรมการ ธปท. เพราะต้องมีความเป็นอิสระปลอดการเมือง ซึ่งที่ผ่านมานายกิตติรัตน์ ได้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน โดยคณะกรรมการคัดเลือกชุด นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือก ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า นายกิตติรัตน์ ไม่ได้รับเงินเดือนจาการเป็นที่ปรึกษา จึงเห็นว่าไม่เข้าข่ายการเป็นข้าราชการการเมือง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับนายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นบุคคลที่ ธปท.ได้เสนอชื่อ ก็เป็นที่ปรึกษานายยกรัฐมนตรีเช่นกัน จึงมีมติแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ เป็นประธานกรรมการ ธปท.แล้วส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาแต่งตั้งดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่กฤษฎีกาได้ส่งเรื่องตีความของนายกิตติรัตน์นั้น ถึงไม่ได้รับเงินเดือนจากการเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีก็จริง ถือว่าไม่ได้เป็นข้าราชการทางการเมือง แต่การเป็นที่ปรึกษาเป็นตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้นอาจจะขาดคุณสมบัติประธานกรรมการ ธปท. ดังนั้นรัฐบาลได้มีบทเรียนจากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนทำให้หลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีทั้งคณะ ดังนั้นเชื่อว่ารัฐมนตรีคลัง และรัฐบาลคงจะไม่กล้าที่จะยื้อแต่งตั้งนายกิตติรัตน์ต่อไป โดยอะไรที่คิดว่าเป็นปัญหาจะตัดออกทันที
"ต้องมีการสรรหาประธานคณะกรรมการและกรรมการของแบงก์ชาติกันใหม่ ซึ่งยังไม่ได้พิจารณาว่าจะเริ่มต้นรับสมัครใหม่หรือ สรรหาจากการเสนอชื่อไว้แล้ว ซึ่งต้องมีการเร่งพิจารณาหาทางออกในเร็วๆ นี้ คาดว่าจะสามารถแต่งตั้งได้ภายในเดือนมกราคม 2568" แหล่งข่าวกล่าว