หุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่เข้าซื้อขายในช่วงปลายปีนี้ ส่วนใหญ่สร้างความย่อยยับให้นักลงทุนที่พลัดหลงเข้าไปจองซื้อกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะหุ้นน้องใหม่ 2 ตัวสุดท้าย ซึ่งเจ๊งตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดการซื้อขาย ไม่เปิดโอกาสให้คนจองหนีตายแต่อย่างใด
หุ้นบริษัท อินสไปร์ ไอวีเอฟ จำกัด (มหาชน) หรือ IVF ซึ่งมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หรืออันเดอไรเตอร์
IVF จัดเป็นหนึ่งในหุ้นน้องใหม่ที่ “อำมหิต” เพราะราคาหลุดจองทันทีที่เปิดการซื้อขาย โดยนักลงทุนที่จองซื้อไว้หมดสิทธิขายถอนทุนคืน
IVF เสนอขายหุ้นในราคา 3.10 สตางต์ จากราคาพาร์ 50 สตางค์ เข้าซื้อขายในตลาด MAI เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า เปิดที่ราคา 2.70 บาท หลุดจองในทันที ก่อนจะปิดที่ 2.02 บาท ต่ำกว่าจอง 1.08 บาท
ความอำมหิตของหุ้นน้องใหม่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะวันแรก เพราะราคาหุ้นยังคงปักหัวลงต่อเนื่อง รวม 7 วันทำการ หุ้นแดงเถือกทุกวัน จนวันที่ 19 ธันวาคม ลงมาปิดที่ 1.44 บาท หรือต่ำกว่าราคาจอง 1.66 บาท หรือต่ำกว่าจองเกิน 50%
IVF เพิ่งผงกหัวขึ้นเป็นครั้งแรกในการซื้อขายวันที่ 20 ธันวาคม โดยปิดที่ 1.60 บาท แต่ยังต่ำกว่าราคาจองอีก 1.50 บาท
ผู้ถือหุ้นใหญ่ IVF อาจสุขใจที่ขายหุ้นได้ในราคาแพง บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทอันเดอร์ไรเตอร์ รับค่าธรรมเนียมกันสบายๆ ไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายจากหุ้นที่ต่ำจองกว่า 50%
นักลงทุนที่หลงเข้ามาจองซื้อหุ้นตัวนี้เลือดไหลโชกตามๆ กัน
น้องใหม่ IVF กินรวบคนที่จองซื้อไปแล้ว และถูกวิพากษ์วิจารณ์เละ แต่หุ้นน้องใหม่ตัวสุดท้าย หุ้นบริษัท โรงพยาบาลนครธน จำกัด (มหาชน) หรือ NKT กลับมีพฤติกรรมซ้ำรอยหุ้น IVF เพราะเข้ามาซื้อขายวันแรกก็เจ๊งทันที
NKT นำหุ้นจำนวน 135 ล้านหุ้น เสนอขายในราคาหุ้นละ 7.80 บาท ในช่วงเสนอขายไม่ราบรื่นนัก หรือขายฝืด และเมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ในฐานะหุ้นน้องใหม่ตัวสุดท้าย ปรากฏว่า หลุดจองทันที โดยเปิดที่ราคา 5.95 บาท ต่ำกว่าจอง 1.85 บาท ก่อนกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ 6.10 บาท ต่ำกว่าจอง 1.70 บาท หรือต่ำจอง 21.79% นักลงทุนที่จองไว้เจ็บหนักตามระเบียบ
และไม่รู้ว่าการซื้อขายวันต่อๆ ไป จะทรุดต่อเนื่องตามรอยหุ้น IVF หรือไม่
การนำหุ้นน้องใหม่เน่าๆ โยนใส่มือนักลงทุน ไม่ว่าเต็มใจจะซื้อหรือไม่ แต่เมื่อหุ้นเข้าซื้อขาย ราคาทรุดต่ำกว่าจอง และลงแรงยิ่งกว่าหุ้นเก่าๆ เสียอีก จึงไม่แตกต่างจากการนำ “ยาพิษ” ไปขายนักลงทุน จนเกิดการล้มตายเป็นเบือ
ไม่รู้ว่านักลงทุนจะเข็ดกับหุ้นน้องใหม่เน่าๆ หรือไม่ เพราะต้นปีหน้ามีหุ้นน้องใหม่จ่อคิวเข้าอีกหลายตัว และบางตัวมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินหน้าเดิมๆ มีบริษัทอันเดอร์ไรเตอร์หน้าเดิม ที่เคยนำหุ้นเน่าๆ หรือ “หุ้นพิษ” มาขาย จนนักลงทุนที่จองซื้อเจ๊งระเนระนาดมาแล้ว
แผนการปลุกระดมหุ้นใหม่ที่จะเข้าตลาดหุ้นปีหน้าถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ทั้งการจัดงบซื้อสื่อ เพื่อเชียร์หรือโฆษณาชวนเชื่อให้นักลงทุนจองซื้อ และมีสื่อหุ้นบางสำนักพร้อมพานักลงทุนไปตาย เชียร์หุ้นใหม่ชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู เพื่อรับเศษเงินที่หุ้นใหม่โยนมาปิดปากวิพากษ์วิจารณ์
ใครที่เจ็บและยังไม่รู้สึกเข็ดกับหุ้นใหม่เน่าๆ เตรียม “ลองของ” ได้ เตรียมเงินไว้ เพราะมี “หุ้นพิษ” บางตัวรอเข้ามาสูบเงินอยู่
และมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทอันเดอร์ไรเตอร์หน้าเดิมที่เคยสร้างความเสียหายให้นักลงทุน เป็นตัววางแผนแต่งตัวหุ้นเน่าๆ เข้ามาหลอกกินเงินนักลงทุนอีก
ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากตกเป็นเหยื่อหุ้นใหม่เน่าๆ อย่าจองซื้อหุ้นใหม่ หุ้นตัวไหนมาเสนอขาย ไล่ไปขายที่อื่น รวมมือกันทลายแก๊งนำ "หุ้นพิษ" มาหลอกขาย
