RML หรือบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สอบถามครอบคลุมการจ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อการลงทุน การปรับเงื่อนไขตั๋วเงินแปลงสภาพ และภาระผูกพันในการลงทุน ยืนยันการดำเนินงานเป็นไปตามกฎหมายและโปร่งใสทุกขั้นตอน ย้ำการลงทุนไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท พร้อมประกาศเดินหน้าดันอาคาร ‘OCC’ (One City Centre) ใจกลางเพลินจิต มูลค่า 14,800 ล้านบาท เข้ากองรีท สร้างเสถียรภาพทางการเงินระยะยาว
นายสรพงษ์ มาเมือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน RML กล่าวว่า “RML ยึดมั่นในหลักการดำเนินงานที่โปร่งใส รอบคอบ และปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทุกการตัดสินใจในการลงทุนผ่านการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบและคำนึงถึงความคุ้มค่าระยะยาว โดยเชื่อมั่นว่าการลงทุนของเราจะสร้างความมั่นคงให้บริษัท ทั้งในด้านการเงินและโอกาสการเติบโตในอนาคต”
บริษัทขอชี้แจงรายละเอียดในประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.เงินจัดสรรล่วงหน้าสำหรับการลงทุน
1.1 บริษัทจัดสรรค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเพื่อสนับสนุนโครงการมิกซ์ยูสใหม่ เตรียมเปิดตัวปี 2568
บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสใหม่ในไตรมาสแรกของปี 2568 ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว บริษัทได้จัดสรรเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้า (Pre-Development Cost) โดยเป็นการจัดสรรชั่วคราวจนกว่าจะมีการลงนามสัญญาร่วมทุน เงินดังกล่าวถูกฝากไว้กับกรรมการบริหารที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งบริษัท และเจ้าของที่ดิน วัตถุประสงค์หลักของการจัดสรรนี้คือเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน สร้างความมั่นใจให้เจ้าของที่ดินว่าบริษัทมีความพร้อมในการลงทุน และป้องกันไม่ให้เจ้าของที่ดินไปร่วมมือกับนักลงทุนรายอื่น การดำเนินการดังกล่าวแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาโครงการอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมทั้งปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนและผู้ถือหุ้น ด้วยความโปร่งใสและการบริหารจัดการที่ดี ทั้งนี้ กรรมการบริหารที่ได้รับมอบหมายไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวใดๆ กับกรรมการ ผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
1.2 เงินจ่ายล่วงหน้าสำหรับการลงทุนในโครงการร่วมทุน
บริษัทขอชี้แจงว่าการลงทุนในที่ดินดังกล่าวเป็นมติของผู้ถือหุ้นและผู้บริหารชุดเก่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนพื้นที่สุขุมวิท โดยบริษัทได้ชำระเงินมัดจำค่าที่ดินไปบางส่วน ทั้งนี้หลังจากที่ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามา ได้ทบทวนและศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) ใหม่ ซึ่งพบข้อจำกัดบางประการในการพัฒนา บริษัทจึงตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุน (Impairment) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงและมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน โดยบริษัทมั่นใจว่าค่าเผื่อการด้อยค่าที่ตั้งไว้มีความเหมาะสม เพียงพอ และสอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีที่เคร่งครัด ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขใหม่ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาสแรกของปี 2568
2.การลงทุนในตั๋วเงินแปลงสภาพของบริษัทในสหรัฐอเมริกา
ในปี 2565 บริษัทได้ร่วมลงทุนในตั๋วเงินแปลงสภาพของ Nautilus Data Technologies, Inc. โดยมีกลุ่มนักลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสิงคโปร์เข้าร่วมลงทุนด้วยเช่นกัน Nautilus ดำเนินธุรกิจ Data Center โดยมีแผนที่จะ IPO เข้าตลาด Nasdaq ในอีก 2 ปีข้างหน้า จึงมีการจัดโครงสร้างทางการเงินใหม่ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุนและระดมทุนเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้น ซึ่งผู้ถือหุ้นรายใหญ่บางรายได้ลงทุนเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนรายใหญ่ในธุรกิจเทคโนโลยีที่แสดงความสนใจในการเข้ามาลงทุนร่วมใน Nautilus ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อสรุปแผนการลงทุน
อย่างไรก็ตาม RML และผู้ถือหุ้นบางรายยังไม่ได้ลงทุนเพิ่มเติมตามแผนที่ Nautilus นำเสนอ เนื่องจากอยู่ระหว่างการขอข้อมูลเพิ่มเติมและพิจารณาโครงการอย่างรอบคอบ บริษัทให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงและความเหมาะสมของการลงทุน เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจสอดคล้องกับผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท และผู้ถือหุ้น พร้อมดำเนินการอย่างรอบคอบและโปร่งใสในทุกขั้นตอน
3.การลงนามในสัญญาโครงการร่วมทุนที่เตรียมเปิดตัวในปี 2568
บริษัทได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทวิลล่า โดยมีแผนเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2568 โครงการนี้เป็นความร่วมมือกับผู้ลงทุน โดยบริษัทรับผิดชอบการบริหารจัดการทั้งหมด โครงการดังกล่าวจะแบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส เริ่มดำเนินการจากเฟสแรก ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังปรับปรุงโครงการให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ทั้งบริษัท และผู้ร่วมทุนยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปตามแผน เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพทางธุรกิจและโอกาสในการสร้างผลกำไรที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบและยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน โดยเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่หรือทำสัญญาเงินกู้เพิ่มเติมกับสถาบันการเงินชั้นนำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมเร่งระบายสต๊อกโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่แล้วเสร็จเพื่อเพิ่มกระแสเงินสด และคงอัตราส่วนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมแปลงอาคาร ‘OCC’ มูลค่า 14,800 ล้านบาท เข้าสู่กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) โดยปัจจุบัน ‘OCC’ มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ใกล้ 80% และได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและกระบวนการตรวจสอบสถานะ (Due Diligence) กับนักลงทุนรายใหญ่ 5 ราย โดยคาดว่าจะปิดดีลและจัดตั้ง REIT ได้ภายในปี 2568
นายสรพงษ์ กล่าวปิดท้ายว่า “ปี 2568 จะเป็นปีที่สำคัญของ RML โดยมีอาคาร ‘OCC’ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้บริษัทกลับมามีกำไร พร้อมเสริมสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงิน และดำเนินตามแผน Turnaround ที่วางไว้ การดำเนินการทั้งหมดนี้จะช่วยให้ RML มีความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว”