อัตราส่วนบิทคอยน์ต่อทองคำ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่วัดอำนาจการซื้อของบิทคอยน์ เมื่อเทียบกับทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ (ATH) เนื่องจากราคาของบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
Peter Brandt นักเทรดฟิวเจอร์สที่มีประสบการณ์ เปิดเผยพัฒนาการนี้ในโพสต์บน X เมื่อวันจันทร์ โดยระบุว่าอัตราส่วนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น ATH ที่ 40 ออนซ์ทองคำต่อ 1 BTC
"ตอนนี้เป็นทางการแล้ว อัตราส่วน Bitcoin/ทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ จุดต่อไปจะเป็น 89 ต่อ 1 ซึ่งหมายความว่าจะต้องใช้ทองคำ 89 ออนซ์ (ซื้อในราคาพรีเมียมจาก Shifty-Schiff SchiffGold) เพื่อซื้อบิทคอยน์ หนึ่งเหรียญ" Brandt กล่าว
เหตุการณ์สำคัญนี้เกิดขึ้นเมื่อราคาของบิทคอยน์ พุ่งทะลุ 106,000 ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำสปอต (XAU) ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์
It is now official. The Bitcoin/Gold ratio has now posted a new ATH. Next stop will be 89 to 1 -- it will require 89 ounces of Gold (purchased at a rip-off premium from Shifty-Schiff SchiffGold @PeterSchiff) to buy a single Bitcoin. pic.twitter.com/PZnIQ81zwW— Peter Brandt (@PeterLBrandt) December 16, 2024
อัตราส่วนบิทคอยน์ต่อทองคำคืออะไร?
อัตราส่วนบิทคอยน์ ต่อทองคำคำนวณโดยการหารราคาของบิทคอยน์ ด้วยราคาสปอตของทองคำ ตัวชี้วัดนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอำนาจการซื้อของบิทคอยน์ เมื่อเทียบกับทองคำ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นแหล่งเก็บมูลค่าแบบดั้งเดิม Brandt แนะนำว่าอัตราส่วนนี้อาจเพิ่มขึ้นอีก โดยคาดการณ์เป้าหมายในอนาคตที่ 89 ออนซ์ทองคำต่อบิทคอยน์หนึ่งเหรียญ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเชื่อที่เพิ่มขึ้นในชุมชนคริปโตว่าบิทคอยน์ อาจครองส่วนแบ่งตลาดทองคำมูลค่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ได้มากขึ้น ผู้สนับสนุนให้เหตุผลว่าบิทคอยน์ มีลักษณะดิจิทัล ความหายาก และคุณสมบัติการกระจายอำนาจ ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ทันสมัยสำหรับทองคำ
ทั้งนี้มูลค่าตลาดปัจจุบันของบิทคอยน์ อยู่ที่ประมาณ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าตลาดรวมของทองคำอย่างมาก
Michael Saylor calls on the US Government to sell all of its gold and buy #Bitcoin. pic.twitter.com/G25G6uXHOf— Watcher.Guru (@WatcherGuru) December 15, 2024
Michael Saylor เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขายทองคำและซื้อบิทคอยน์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Michael Saylor จาก MicroStrategy ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขายทองคำและซื้อบิทคอยน์แทน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุด คิดเป็น 72% ของทั้งหมด
ตามข้อมูลจาก TradingEconomics สหรัฐฯ มีทองคำ 8,133 ตัน และครองการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม Saylor เรียกร้องให้รัฐบาลไม่ซื้อทองคำเพิ่ม แต่ให้ซื้อบิทคอยน์ เพิ่มเพื่อเป็นสินทรัพย์ในอนาคตเพื่อต้านทานเงินเฟ้อ เขาเชื่อว่าบิทคอยน์ จะเพิ่มขึ้นเป็นล้านล้านดอลลาร์ในฐานะทุนสำรองแห่งชาติ
"ขายทองคำของคุณ ขายทองคำทั้งหมดของสหรัฐฯ และซื้อบิทคอยน์ เพราะคุณสามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ 5 ล้านเหรียญในราคาทองคำ คุณจะทำให้สินทรัพย์ทองคำทั้งหมดหมดค่า และศัตรูของเราถือทองคำในธนาคารของพวกเขา ดังนั้นสินทรัพย์ของพวกเขาจะเป็นศูนย์ ในขณะที่สินทรัพย์ของเราจะเพิ่มขึ้นเป็นล้านล้านดอลลาร์" Saylor กล่าว
ความยากในการขุดบิทคอยน์พุ่งทำสถิติใหม่
นอกจากนี้ ความยากในการขุดบิทคอยน์ ยังทำสถิติใหม่อีกด้วย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ความยากในการขุดบิทคอยน์ เพิ่มขึ้นเกิน 105 ล้านล้าน ตามข้อมูลจาก CoinWarz ความยากในการขุดซึ่งปรับทุก ๆ 14 วัน กำหนดความท้าทายในการหาค่าแฮชที่ถูกต้องสำหรับบล็อกใหม่ การปรับครั้งต่อไปมีกำหนดในวันที่ 1 มกราคม 2025
ขณะที่ตามรายงาน Jack Dorsey อดีตผู้ก่อตั้งและซีอีโอทวิตเตอร์ (เปลี่ยนชื่อเป็น X หลังอีลอน มัสก์เข้าซื้อกิจการ) จาก Block ยังได้ประกาศแผนการเพิ่มการลงทุนในโครงการขุด บิทคอยน์ และกระเป๋าเงินบิทคอยน์แบบ self-custody