ซีไอเอ็มบีไทยเผยธุรกิจ Wealth ยังเติบโตดี ยอด Aum ใกล้แตะเป้าหมายที่ 10% ยอดรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 35% ทะลุเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 20% พร้อมตั้งเป้าปีหน้า AUM โต 10% ใกล้เคียงเดิม เน้นกลุ่ม AUM ที่ 10-30 ล้าน มองภาพรวมผันผวนมาก แนะบาลานซ์พอร์ตรับความเสี่ยง
นายติยะชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Wealth & Preferred Segment ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ของธนาคารเติบโตได้ดี โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 20% ซึ่งเป็นผลมาจากการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และการวางกลยุทธ์การจัดจำหน่ายสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างถูกต้อง โดยผลิตภัณฑ์เงินฝากยังเป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานเติบโตเกินกว่า 34% นับตั้งแต่ต้นปี จากการปรับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอตามที่ลูกค้าต้องการ ขณะที่ด้านการลงทุนธนาคารได้คัดสรรผลิตภัณฑ์มาให้ลูกค้าอย่างดีในทุกๆ กลุ่ม โดยปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้บริหาร (AUM) ของธนาคารแบ่งเป็นเงินฝาก 35% และสินทรัพย์การลงทุน 65% ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของธนาคารที่ต้องการให้ลูกค้าวางรากฐานที่มั่นคงจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แล้วต่อยอดมาสู่การลงทุน
สำหรับมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้บริหาร (AUM) ปีนี้ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาเติบโตใกล้ 10% ตามเป้าที่ตั้งไว้ และในปีหน้าตั้งเป้าขยายตัวที่ 10% เช่นเดียวกัน รวมถึงตั้งเป้าหมายรายได้จากธุรกิจ Wealth ที่กว่า 20% ซึ่งแม้ว่าในปีหน้ามองว่าจะมีความท้าทายมากขึ้นจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ จะทำให้มีความผันผวนมากขึ้น รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยขาลง ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องให้ความสำคัญมีการกระจายความเสี่ยงให้เหมาะสม ซึ่งจะแตกต่างกันตามความสามารถในการรับความเสี่ยง และพฤติกรรมของแต่ละกลุ่ม
"ในปี 2568 ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบริหารเงินลงทุนของลูกค้าในช่วงที่ตลาดมีความซับซ้อนและผันผวนมากขึ้น สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยได้คัดสรรกองทุนรวม หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง และผลิตภัณฑ์ประกันที่มีการคุ้มครองเงินต้น ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ได้ร่วมมือกับ Principal Asset Management ในการออกผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะพิเศษ คุ้มครองเงินต้นสำหรับลูกค้าที่ถือกองทุนจนครบกำหนด สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ซึ่งสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1,200 ล้านบาท
ขณะที่ลูกค้าที่สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้นแต่ยังต้องการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนและรับรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ทางธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ได้มีความร่วมมือกับสถาบันการเงินระดับโลกที่มีความรู้และประสบการณ์ในการบริหารการลงทุนทั่วโลกเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามีทางเลือกและเครื่องมือสำหรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดที่จะสูงขึ้นในปี 2568"
นอกจากนี้ ธนาคารยังเห็นถึงการเติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่ซื้อตราสารหนี้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือของซีไอเอ็มบีไทย โดยการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดแรกผ่านแอปพลิเคชันเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 102% ต่อปี ในส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรอง เติบโตได้ค่อนข้างดี เฉลี่ยอยู่ที่ 75% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2564 สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดรอง ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงตราสารหนี้คุณภาพสูง (investment grade bonds) จากธนาคารทุกวันทำการ โดยไม่ต้องคำนึงถึงวันออกขายวันแรกของตราสารหนี้นั้นๆ
นายติยะชัย กล่าวอีกว่า ในปีหน้าเราคงจะเลือกกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่ม AUM ประมาณ 10-30 ล้านบาท ที่สามารถสร้างรายได้ด้วย เนื่องจากกลยุทธ์ของธนาคารจะเริ่มจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อขยายฐานมาสู่เงินลงทุน โดยเงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงสำหรับลูกค้ากลุ่ม Wealth เช่น CIMB Preferred Savings จ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 2.2% ใน 4 เดือนแรก สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีเงินฝากตั้งแต่ 3 ล้านบาทถึง 500 ล้านบาท ซึ่งก็ถือเป็นต้นทุนของธนาคารเช่นกัน