ตลาดคริปโตกลับมาร้อนแรงทันทีหลังประกาศผลการเลือกตั้งสหรัฐโดยนายโดนัล ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 พร้อมทั้งเตรียมมาตรการเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้ในการผลักดันให้สหรัฐเป็นผู้ในโลกคริปโต ด้วยการตั้งกองทุนสำรองสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงกลยุทธ์
ล่าสุดนายฉางเผิง จ้าว อดีตผู้ก่อตั้งและซีอีโอไบแนนซ์ กล่าวในงานประชุม Bitcoin MENA 2024 ว่า "มีความเป็นไปได้ที่จีน จะเพิ่มทุนสำรองบิทคอยน์เพื่อต่อในทางเศรษฐกิจกับสหรัฐแม้ว่าในกฏหมายจีนจะแบนบิทคอยน์ก็ตาม
โดยภายในงานประชุมประจำปีที่จัดขึ้นโดย Bitcoin Magazine ในเมืองอาบูดาบี ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "เมืองหลวงของเมืองหลวง" ได้ดึงดูดบุคคลสำคัญหลายคน รวมถึง Eric Trump ลูกชายของ Donald Trump, Sheikh Nahayan Mabarak Al Nahyan, CZ และ Justin Sun
ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่หัวข้อใหญ่ที่ทุกคนสนใจในงาน Bitcoin fest คือ "ทุนสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ" ที่กำลังจะมาถึง โดยเป็นช่วงเวลานานของการยอมรับบิทคอยน์อย่างเต็มที่จากรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่าจะกระตุ้นให้เกิด "การแข่งขันทางอาวุธเชิงเศรษฐศาสตร์" เมื่อธนาคารกลางต่างๆ แข่งขันกันสร้างทุนสำรองบิทคอยน์ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ราคาของบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง
ฉางเผิง จ้าว อดีตซีอีโอของไบแนนซ์ อ้างว่าจีนอาจเสริมกำลังสร้างทุนสำรองบิทคอยน์ ตอบโต้อำนาจสหรัฐ
ในขณะที่พูดถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างปักกิ่งและบิทคอยน์ ทางนายจ้าวได้เน้นย้ำถึงโอกาสที่แท้จริงของการแข่งขันทางเศรษฐกิจในแบบสงครามเย็นที่มีการถือครองบิทคอยน์เป็นอาวุธ ของมหาอำนาจในสองซีกโลกคือ สหรัฐฯ และจีน
"ทุนสำรองบิทคอยน์ของจีน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พวกเขาต้องมีการกำหนดมาตรการในบางจุดเพราะมันเป็นสินทรัพย์ 'แข็ง' เพียงอย่างเดียว ที่สามารถต่อสู้กับสหรัฐได้ และผมจะไม่แปลกใจเลย ถ้าพวกเขาแอบซุ่สะสม และประกาศในภายหลัง ซึ่งพวกเขาสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและสะสมได้มากถ้าพวกเขาต้องการ" นายจ้าวกล่าว
ในระหว่างการสนทนา นายจ้าวยังแสดงความหวังว่าประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่งในเดือน มกราคม 2568 จะประกาศอภัยโทษให้เขาสำหรับข้อกล่าวหาที่นำไปสู่การจำคุกของเขาเมื่อต้นปีนี้
ประเทศต่างๆ กำลังสร้างทุนสำรองบิทคอยน์อย่างลับๆ หรือไม่?
ในขณะที่หลายประเทศได้สะสมบิทคอยน์อย่างเปิดเผยมาหลายปี รวมถึงเอลซัลวาดอร์ภายใต้การบริหารของนายบูเคเล่ และประเทศเล็กๆ อย่างภูฏาน รวมถึงประเทศอื่นๆ (และรัฐในสหรัฐฯ) ได้ค่อยๆ เพิ่มการถือครองบิทคอยน์ของพวกเขาอย่างเงียบๆ
ตัวอย่างที่น่าประหลาดใจคือสหราชอาณาจักร ซึ่งมีแนวทางที่ซับซ้อนและค่อนข้างต่อต้านนวัตกรรมในการควบคุมคริปโต โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยเมื่อต้นปีนี้ว่ามูลค่ารวมของการถือครอง BTC ที่ถูกยึดและเก็บโดยหน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติของอังกฤษอยู่ที่ 61,000 BTC
อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวลือที่แพร่หลายในงาน Bitcoin MENA ว่าการสะสมทุนสำรองแห่งชาติที่แท้จริงอาจกำลังดำเนินการอย่างเงียบๆ ขณะที่ประเทศต่างๆ พยายามนำหน้านโยบายคริปโตของทรัมป์เพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน
ขณะที่เจ้าชายฟิลิเป้ แห่งแห่งเซอร์เบีย ตรัสเป็นนัยถึงความสำคัญของบิทคอยน์ หลังจากที่มีการไหลเข้าของคริปโตในรัฐชาติ เป็นคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของบิทคอยน์ที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นจนถึง 100,000 ดอลลาร์ในกรอบระยะเวลาเพียง 3 เดือนที่ผ่านมา
"ทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ของบิทคอยน์กำลังเกิดขึ้นแล้วหลังประตูปิด" เจ้าชายฟิลิเป้ ยืนยัน