รัฐบาลอินเดียเดินหน้าปราบปรามการหลีกเลี่ยงภาษีในอุตสาหกรรมคริปโต หลังพบการเลี่ยงภาษีสินค้าบริการ (GST) มูลค่ารวมกว่า 99.1 ล้านดอลลาร์ จากการแลกเปลี่ยนคริปโต 17 แห่ง โดย Binanc และบริษัทในเครือ Nest Services Ltd. ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีที่ใหญ่ที่สุด
หน่วยงาน GST เปิดเผยว่า Nest Services Ltd. ซึ่งเชื่อมโยงกับ ไบแนนซ์ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าหลีกเลี่ยงภาษี GST มูลค่ากว่า 86.8 ล้านดอลลาร์ และยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมกว่า 480 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกโอนไปยังบัญชีนอกประเทศ
ฟื้นฟูภาษีจากภาคคริปโต 14.7 ล้านดอลลาร์
Pankaj Chaudhary รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานกับ Lok Sabha ว่ามีการกู้คืนภาษี ค่าปรับ และดอกเบี้ยรวมมูลค่า 14.7 ล้านดอลลาร์ จากการตรวจสอบครั้งนี้ พร้อมระบุว่าการปราบปรามจะดำเนินต่อไปเพื่อเรียกคืนเงินที่ยังค้าง
นอกจาก ไบแนนซ์การแลกเปลี่ยนคริปโตชื่อดังอื่น ๆ ก็ถูกตรวจสอบด้วย เช่น
1.WazirX (Zanmai Labs Pvt.) ถูกกล่าวหาว่าหลีกเลี่ยงภาษี 4.9 ล้านดอลลาร์
2.CoinDCX เลี่ยงภาษี 2 ล้านดอลลาร์
3.CoinSwitch Kuber เลี่ยงภาษี GST 1.7 ล้านดอลลาร์
ขณะที่นักลงทุนคริปโต 4 รายยังถูกพบว่าหลีกเลี่ยงภาษีรวม 210,000 ดอลลาร์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถกู้คืนได้ 290,000 ดอลลาร์ รวมถึงค่าปรับ
ไบแนนซ์และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนสิงหาคม 2567 หน่วยงานภาษีอินเดียได้เรียกร้องภาษี GST จากไบแนนซ์มูลค่า 86 ล้านดอลลาร์ พร้อมชี้แจงว่าไบแนนซ์มีรายได้จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในอินเดียที่ไม่ได้เสียภาษีตามกฎหมายท้องถิ่น
แม้ไบแนนซ์เคยประกาศในเดือนเมษายนว่าจะกลับมาดำเนินกิจการในอินเดียหลังชำระภาษี แต่รายงานล่าสุดชี้ว่าไบแนนซ์อาจยังไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด และถูกส่งจดหมายแจ้งเตือนไปยังสำนักงานในต่างประเทศ เช่น เซเชลส์และหมู่เกาะเคย์แมน
ภาษีเข้มงวดในอุตสาหกรรมคริปโตของอินเดีย
อินเดียกำหนดให้ธุรกรรมคริปโตทุกประเภทต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย (TDS) 1% และกำไรจากการลงทุนคริปโตทั้งหมดจะต้องเสียภาษีในอัตรา 30% นโยบายที่เข้มงวดนี้สะท้อนความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้การดำเนินการปราบปรามภาษีในอุตสาหกรรมคริปโตของอินเดียชี้ให้เห็นถึงท่าทีที่แข็งกร้าวของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย ขณะเดียวกันยังเป็นสัญญาณเตือนถึงผู้ประกอบการคริปโตทั่วโลกที่ดำเนินกิจการในอินเดียให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด