Peter Schiff หัวหน้ากองทุน Euro Pacific Funds ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บิทคอยน์ อย่างรุนแรง โดยระบุว่ามันกำลังกลายเป็น "ภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ" หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงแผนการของรัฐบาลในการเก็บสะสม บิทคอยน์ ในกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ หากเขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง
Schiff โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ว่า “มันเป็นเรื่องหนึ่งเมื่อประชาชนใช้เงินของตัวเองซื้อบิทคอยน์ แต่เมื่อรัฐบาลเริ่มใช้เงินภาษีของประชาชนซื้อ บิทคอยน์ นั่นคือการข้ามเส้นสำคัญ” พร้อมเสริมว่าบิทคอยน์กำลังกลายเป็น "ศัตรูหมายเลขหนึ่งของประชาชน"
ทรัมป์เตรียมเพิ่มบิทคอยน์ในกองทุนสำรอง
ในการประชุมบิทคอยน์ ที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ระบุว่า หากเขากลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง รัฐบาลจะถือบิทคอยน์ ไว้ในฐานะสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์ พร้อมกล่าวย้ำแนวทางที่นักลงทุนบิทคอยน์หลายคนคุ้นเคยว่า "อย่าขายบิทคอยน์ของคุณ"
ในขณะเดียวกัน นางซินเธียร์ ลัมมิส วุฒิสมาชิกจากรัฐไวโอมิง ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคริปโตตัวยง ยังเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างกองทุนสำรองนี้
ราคาทะลุ $100,000 ก่อนลดลง
ความเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์ในช่วงนี้ยังสร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อราคาทะลุระดับ $100,000 ก่อนปรับตัวลงมาเล็กน้อยที่ $93,000 ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Schiff โพสต์ข้อความโจมตีบิทคอยน์
คำวิจารณ์จาก Schiff สะท้อนมุมมองแบบอนุรักษ์นิยม
Schiff ยังคงยืนกรานในความเห็นเชิงลบต่อบิทคอยน์ และวิจารณ์ถึงแนวคิดการใช้บิทคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจว่าเป็นการ "ขโมยทรัพย์สินของประชาชน" โดยชี้ว่ารัฐบาลควรเน้นปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนแทนที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
การถกเถียงในครั้งนี้สะท้อนถึงมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ระหว่างฝ่ายที่เชื่อในศักยภาพของบิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์แห่งอนาคต กับฝ่ายที่มองว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อระบบเศรษฐกิจเดิมของประเทศ