xs
xsm
sm
md
lg

MONO ห้าว...โวยแหลกตลาดหลักทรัพย์ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นช่องทางที่บริษัทจดทะเบียนใช้สื่อสารกับนักลงทุน ชี้แจงเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และชี้แจงข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถาม

แต่บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO กลับใช้ระบบสารสนเทศตอบโต้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งออกมาเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้น MONO

การตอบโต้เกิดขึ้นทันควัน หลังตลาดหลักทรัพย์ประกาศเตือนนักลงทุน และเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบซื้อขายหุ้น MONO ซึ่งพบว่า มีคนกลุ่มหนึ่งมีมูลค่าซื้อขายหุ้น MONO สัดส่วนประมาณ 15% ของมูลค่าซื้อขายในแต่ละวัน และมีส่วนสนับสนุนราคาหุ้น

ตลาดหลักทรัพย์ได้ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น MONO ขั้นที่ 1 หลังราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย มีผลตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

แต่ราคาหุ้นยังทะยานขึ้นต่อเนื่อง จนวันที่ 3 ธันวาคม ตลาดหลักทรัพย์จึงประกาศเตือนนักลงทุนซ้ำ และเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบกลุ่มคนที่มีส่วนอยู่เบื้องหลังราคาหุ้น

ผลของการประกาศเตือน ทำให้ราคาหุ้น MONO ปรับฐานลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วันทำการ โดยวันที่ 3 ธันวาคมปิดที่ 2.40 บาท ลดลง 52 สตางค์

หลังปิดการซื้อขายหุ้นวันที่ 3 ธันวาคม ผู้บริหาร MONO ได้ตอบโต้ผ่านระบบสารสนเทศ โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพการซื้อขายหุ้นบริษัทเกิดจากปัจจัยภายนอกและสภาวการณ์อื่นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท

และการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตรวจพบกลุ่มบุคคลที่อาจเชื่อได้ว่า เป็นกลุ่มเดียวกัน เข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน หากมีหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรต้องรายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย

แต่การที่ออกประกาศแจ้งเตือนนักลงทุน ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกและความเสียหายเกินควร โดยไม่มีเหตุสมควรตามกฎหมาย บริษัทเห็นว่าการกระทำของตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจถือได้ว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ลงทุนและบริษัทอย่างเหมาะสม

ผู้บริหาร MONO สรุปทิ้งท้ายว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาใช้สิทธิทางกฎหมายต่อการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัท ลงชื่อนายนวมินทร์ ประสพเนตร รักษาประธานเจ้าที่บริหาร MONO

การตอบโต้การทำงานของตลาดหลักทรัพย์ของผู้บริหาร MONO เป็นการแสดงท่าทีแข็งกร้าว และไม่เคยมีบริษัทจดทะเบียนได้กระทำมาก่อน ซึ่งแม้เป็นสิทธิของผู้บริหาร MONO ที่ออกมาโวยวายการประกาศเตือนนักลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ และทำให้หุ้นตก

แต่สิ่งที่จะต้องตั้งคำถามกันคือ ตลาดหลักทรัพย์ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ และหุ้น MONO เคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ โดยมีกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการสร้างราคาหรือไม่

หุ้น MONO เคยถูกสร้างราคาหรือปั่นมาแล้วพร้อมกับหุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS โดยนายพิชญ์ โพธารามิก อดีตผู้บริหาร และปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ MONO สัดส่วนประมาณ 57% พร้อมกับพวก ถูก ก.ล.ต. ลงโทษปรับ 160 ล้านบาท ในความผิดร่วมกันสร้างราคาหุ้น

ในรอบ 12 เดือน ราคาหุ้น MONO เคยลงไปต่ำสุดที่ 50 สตางค์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง และสร้างจุดสูงสุดในรอบหลายปีที่ 2.96 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขายเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม จนล่าสุดวันที่ 4 ธันวาคมปิดที่ 2.50 บาท โดยภายในเวลาประมาณ 5 เดือน ปรับตัวขึ้น 400%

แม้จะมีข่าว JAS และ MONO ได้รับสัมปทาน ถ่ายทอดสอดรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ 6 ฤดูกาล หรือ 6 ปี ส่วนรายได้จากการถ่ายทอดฟุตบอลยังเป็นเพียงคาดหมาย และจะคุ้มกับค่าลิขสิทธิ์หรือไม่ ยังต้องรอดูกันต่อไป

แต่ราคาหุ้น MONO กลับพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน ขณะที่ค่าพี/อี เรโช ไม่อาจคำนวณได้ เพราะผลประกอบการบริษัทขาดทุน

ตลาดหลักทรัพย์ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการซื้อขายหุ้น และมีหลักปฏิบัติในการควบคุมหุ้นที่ราคาและมูลค่าซื้อขายผิดปกติ จึงต้องดำเนินมาตรการป้องกันความเสียหายที่เกิดอาจเกิดขึ้นกับผู้ลงทุน โดยประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น MONO เช่นเดียวกับหุ้นบริษัทจดทะเบียนอีกหลายสิบแห่งที่มีการซื้อขายไม่ปกติ

ถ้าตลาดหลักทรัพย์เห็นความผิดปกติของหุ้นบริษัทจดทะเบียน แต่นิ่งเฉย ไม่ดำเนินมาตรการเตือนใดๆ เท่ากับปล่อยให้นักลงทุนต้องเผชิญความเสี่ยงและความเสียหาย ซึ่งถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และไม่รู้จะมีตลาดหลักทรัพย์ไว้ทำไม

ถ้าปล่อยให้หุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติ โดยไม่มีมาตรการเตือนหรือสยบความร้อนแรง อีกไม่นาน จะมีหุ้นที่เคลื่อนไหวโดยไม่มีปัจจัยสนับสนุนอย่าง MONO ตลาดหุ้น

ภาวการณ์เก็งกำไรที่ไร้พื้นฐานรองรับ หุ้นที่ขึ้นแรงอย่างไร้เหตุผล และมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่า จะมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังการสร้างราคา แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าจัดการแก้ไข หรือเตือนให้นักลงทุนระวัง ถ้าปล่อยให้ดำเนินต่อไป อีกไม่นานตลาดหุ้นจะแปรสภาพเป็นบ่อนการพนันขนาดขนาดใหญ่ที่ถูกกฎหมายอย่างเต็มรูปแบบ

มาตรการกำกับที่ใช้กับหุ้น MONO เป็นสิ่งที่ชอบแล้ว และถือเป็นการทำหน้าที่ปกป้องนักลงทุน ซึ่งไม่ควรหวั่นไหวต่อกลุ่มผู้สูญเสียประโยชน์ใดๆ

ไม่ต้องกลัวการถูกฟ้องร้อง แต่ต้องยืนหยัดการทำหน้าที่ที่ถูกต้อง และตรวจสอบอย่างจริงจังว่า คนกลุ่มใดอยู่เบื้องหลังราคาหุ้น MONO หรือไม่

ถ้ามีหลักฐานมัด ต้องส่งตัวให้ก.ล.ต.สอบสวนในเชิงลึก และร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญาอย่าได้ละเว้น








กำลังโหลดความคิดเห็น