สุดท้ายบริษัท พลังงานบริสุทธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ต้องเดินตามรอยบริษัทลูก หรือบริษัท เน็กซ์พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX โดยประกาศเพิ่มทุนครั้งใหญ่ เพื่อระดมเงินชำระหนี้ และเสริมสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท
EA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ หลังปิดการซื้อขายหุ้น วันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุถึงมติคณะกรรมการบริษัทพิจารณาเพิ่มทุนจำนวน 3,713.34 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 10 สตางค์ โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 2 บาท รวมยอดระดมทุนประมาณ 7,426 ล้านบาท
นอกจากนั้น จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญรุ่นที่ 1 หรือ EA-W1 จัดสรรโดยไม่คิดมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 3 หุ้นใหม่ต่อ 1 ใบสำคัญ ซึ่งมีอายุ 3 ปี ราคาแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญกำหนดไว้ 4 บาท
การเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อนำเงินชำระเงินกู้สถาบันการเงินประมาณ 6,600 ล้านบาท ใช้เป็นทุนหมุนเวียน 300 ล้านบาท และใช้ในโครงการลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ EA เพิ่งแจ้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด ได้รับโอนหุ้นจาก "นายสมโภชน์ อาหุนัย" จำนวน 190 ล้านหุ้น หรือ 5.12% ของทุนจดทะเบียน ขณะที่บริษัท เอสพีบีแอล โฮลดิง จำกัด ได้รับโอนหุ้นเพิ่ม ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้น 25.10% ของทุนจดทะเบียน และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง
NEX เพิ่งประกาศเพิ่มทุน จำนวน 5,986 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ในราคา 1 บาท และจัดสรรให้บุคคลในวงจำกัด 1,995 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.07 บาท แต่ต่อมาประกาศยกเลิกการเสนอขายหุ้นให้บุคคลในวงจำกัด
ส่วนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม ยังถูกจับตาว่า จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะราคาหุ้น NEX ที่ซื้อขายบนกระดานอยู่แถวประมาณ 70 สตางค์ ต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขาย
สำหรับ EA ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างคึกคัก หลังมีข่าวว่า บริษัท โรงงานน้ำตาลราชบุรี เข้ามาถือหุ้น เพราะนักลงทุนคาดว่า อาจเป็นความหวังในการอัดฉีดเงินเสริมสภาพคล่อง
แต่ราคาหุ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลับทรุดลงอีก โดยปิดที่ 5.85 บาท ลดลง 50 สตางค์ ซึ่งไม่อาจคาดหมายได้ว่า จะเกี่ยวกับการเพิ่มทุน โดยผู้ที่รู้ข่าวล่วงหน้าได้ชิงขายหุ้นออกก่อน
การเพิ่มทุนของ EA ครั้งนี้ อาจเป็นทางเลือกหรือทางรอดสุดท้ายในการระดมทุนเพื่อแก้ปัญหาหนี้และสภาพคล่องทางการเงิน เพราะก่อนหน้าเคยออกข่าวว่า มีสถาบันการเงิน 18 แห่ง และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม 4 แห่ง พร้อมร่วมกันปล่อยเงินกู้ แต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดจากข่าวชิ้นนี้
การกู้เงินจากสถาบันการเงิน ประตูอาจถูกปิด เพราะ EA มีภาระหนี้เดิมที่ต้องชำระจำนวนมาก สถาบันการเงินจึงไม่เสี่ยงที่จะปล่อยกู้เพิ่มเติม EA จึงต้องเพิ่มทุน
แม้ราคาหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขาย 2 บาท จะจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิจองซื้อ รวมทั้งผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 42,659 ราย เพราะเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายบนกระดาน
แต่การเติมเงินเข้าไปใน EA ก็มีความเสี่ยง เพราะราคาหุ้นต้องปรับตัวลงทั้งก่อนและหลังการเพิ่มทุน เนื่องจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น และไม่อาจคาดหมายว่า ผลประกอบการบริษัท จะเติบโตเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 4 หมื่นรายต้องพิจารณาตัดสินใจอย่างรอบคอบ
แผนการเพิ่มทุน ระดมเงินกว่า 7 พันล้านบาทของ EA จะหืดขึ้นคอเหมือนบริษัทลูก NEX หรือไม่ จะล้มคว่ำหรือไม่ รอดูกันต่อไป