ฮ่องกง ลูกรักคนรวยยกระดับสิทธิพิเศษ ตั้งเป้ายกเว้นกองทุนป้องกันความเสี่ยงและมหาเศรษฐีจากภาษีคริปโต โดยรัฐบาลวางแผนที่จะขยายการยกเว้นภาษีให้กับสินเชื่อภาคเอกชน อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ และเครดิตคาร์บอน โดยอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือเป็นเวลา 6 สัปดาห์
เสริมจุดแข็งในฐานะศูนย์กลางการเงินนอกประเทศ
ฮ่องกงประกาศแผนยกเว้นภาษีให้กับกองทุนไพรเวทอิควิตี้ เฮดจ์ฟันด์ และนักลงทุนที่ร่ำรวยเป็นพิเศษ โดยครอบคลุมถึงกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัล สินเชื่อเอกชน และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ การตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดการเงินโลก
จากรายงานของ Financial Times ระบุว่ารัฐบาลฮ่องกงได้จัดทำเอกสารข้อเสนอความยาว 20 หน้า เพื่อประเมินผลกระทบของภาษีที่มีต่อการเลือกสถานที่ตั้งของผู้จัดการสินทรัพย์ โดยมีแผนสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น พร้อมเริ่มกระบวนการปรึกษาหารือเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ร่างข้อเสนอนี้ยังขยายการยกเว้นภาษีครอบคลุมถึงสินเชื่อภาคเอกชน อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ และเครดิตคาร์บอน
ผลักดันคริปโตด้วยใบอนุญาต SFC
ฮ่องกงยังแสดงบทบาทสำคัญในตลาดคริปโต โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (SFC) ได้วางกรอบกฎระเบียบรองรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลสำหรับทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน พร้อมออกใบอนุญาตให้บริษัทแลกเปลี่ยน เช่น Hashkey และ OSL ซึ่งเน้นดึงดูดบุคลากรและบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง
ล่าสุด ธนาคาร ZA กลายเป็นธนาคารแห่งแรกในเอเชียที่เสนอการซื้อขายคริปโตแก่ลูกค้ารายย่อยโดยตรง ซึ่งเป็นอีกก้าวที่สะท้อนถึงความตั้งใจของฮ่องกงในการผลักดันคริปโตเข้าสู่ระบบการเงิน
ศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่ไม่มีใครยอม ชิงตำแหน่ง "ผู้นำการเงินเอเชีย" กับสิงคโปร์
ฮ่องกงและสิงคโปร์ต่างเร่งชิงตำแหน่งศูนย์กลางการเงินนอกประเทศ โดยฮ่องกงใช้ข้อได้เปรียบจากการเป็นประตูสู่จีน ลดระเบียบข้อบังคับที่ซับซ้อน และส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนใหม่ เช่น Web3 และสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนสิงคโปร์ตอบโต้ด้วยการเสนอโครงสร้างกองทุนที่ยืดหยุ่นผ่านกรอบ Variable Capital Company (VCC) ซึ่งคล้ายกับโมเดลในหมู่เกาะเคย์แมน พร้อมการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายทุน
การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ส่งผลให้ทั้งสองเมืองพัฒนาสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ดึงดูดใจนักลงทุนจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง