xs
xsm
sm
md
lg

ไทยพาณิชย์เปิดกลยุทธ์ปี 68 เร่งลด Cost เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไทยพาณิชย์เปิดกลยุทธ์ปี 68 รักษารักษาอันดับ 1 ด้าน ROE และ SME พร้อมนำ AI เข้ามายกระดับการทำงานในทุกส่วน และเดินหน้าลด Cost to Income ให้ใกล้เคียง Virtual Bank ที่ระดับ 30% เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)
เปิดเผยว่า แผนงานของธนาคารใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2568-2570) ยังคงเป้าหมายเดิมคือการเป็น Digital Bank with Human Touch ในกลยุทธ์การเลือกกลุ่มเป้าหมายการทำธุรกิจที่ชัดเจน การให้บริการลูกค้าให้เท่ากับมูลค่าทางเศรษฐกิจของกลุ่มลูกค้าที่เราเลือก เช่น หากเป็นลูกค้ากลุ่มเวลธ์อาจจะ Human ให้บริการมากกว่ากลุ่มเอสเอ็มอี หรือรายย่อยที่จะใช้ Digital เข้ามาให้มากที่สุด เป็นต้น และการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลให้บุคลากรและระบบต่างๆ ของธนาคารเพิ่มขึ้น

"ในปีหน้ายังเป็นปีที่ท้าทาย มีความกังวลในหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่มีปัญหาเชิงโครงสร้างในด้านการสร้างรายได้ ขณะที่มาตรการแก้หนี้เป็นการลดภาระหนี้ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องการสร้างรายได้ ดังนั้น ในเรื่องของการปล่อยสินเชื่อหรือการดำเนินธุรกิจยังคงต้องมีความระมัดระวังอยู่"

พร้อมกันนั้น ธนาคารยังคงมุ่งรักษาผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ให้อยู่ในระดับสองหลักต่อเนื่อง รวมถึงตั้งเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งด้าน Wealth Wallet Share ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ดิจิทัลแตะ 25% ของรายได้รวมในปี 2568 จากสิ้นปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับ 15% และเดินหน้าปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 150,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 130,000-140,000 ล้านบาท

"ปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์ถือเป็นธนาคารที่มี ROE และ SME สูงเป็นอันดับหหนึ่งของอุตสาหกรรม และเราพยายามที่จะรักษาระดับที่หนึ่งเอาไว้ให้ได้ แล้วเราพยายามที่ผลักดันอีก 2 กลุ่ม คือ Wealth และดัชนีชี้วัดความพึงพอใจและความผูกพันกับแบรนด์ของผู้บริโภค (NPS Score) ให้ขึ้นสู่อันดับ 1 เช่นกัน"

สำหรับในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารยังคงรักษาการเติบโตของกำไรได้ต่อเนื่องที่ระดับกว่า 38,000 ล้านบาท เติบโต 5% เมิ่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) เติบโตสูง โดยสามารถสร้างรายได้จากการขายเฉพาะประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) และกองทุนรวมถึง 19% จึงมั่นใจสิ้นปีนี้ รายได้จากธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตได้สูงถึง 20%

**เดินหน้าลดCostสู้ Virtual Bank**
สำหรับการให้ใบอนุญาตธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) นั้น นายกฤษณ์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีการเตรียมพร้อมตัวเองให้มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น โดยการนำดิจิทัลเข้ามาช่วยในกลุ่มลูกค้ารายเล็ก และใช้พนักงานบริการลูกค้าที่คุณค่าทางเศรษฐกิจมาก รวมถึงการบริหารจัดการ Cost to Income ให้อยู่ในระดับต่ำลงให้ใกล้เคียงกับ Cost to Income เฉลี่ยของ Virtual Bank ที่ระดับประมาณ 30% ให้มากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจจะต้องใช้เวลาและมีความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากในระยะต่อไปธนาคารยังต้องมีการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการระบยปฏิบัติงานหลัก (Core Banking System) ระบบ AI การพัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมถึงระบบคลาวด์ตามแผนของบริษัทแม่ เป็นต้น

"การมาของ Virtual Bank นั้น เรามองว่าปัจจุบัน 90% Virtual Bank ยังขาดทุน และในสภาวะที่หนี้ครัวเรือนของไทยสูงขนาดนี้ 89% ถ้ารวมนอกระบบกว่า 100% ขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจไทยยังมีปัญหาเชิงการเพิ่มรายได้ แล้ววัตถุประสงค์ที่จัดตั้ง Virtual Bank ขึ้นมาก็เพื่อรองรับกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อนั้นจะสามารถทำได้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้ขนาดไหน เช่นเดียวกันว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะซีเรียสกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งดังกล่าวขนาดไหน หากไม่ซีเรียสการแข่งขันจะขยับเข้ามาใกล้ธนาคารพาณิชย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเร็วขึ้น แต่ถ้าซีเรียสเราจะมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเราเองเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง"
กำลังโหลดความคิดเห็น