หุ้นบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ทรุดลงต่อเนื่อง หลังผลประกอบการงวด 9 เดือนแรก 3 ปีนี้ขาดทุนหนัก และยังถูกซ้ำเติมจากข่าวการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนของ "หมอบุญ วนาสิน" ผู้ก่อตั้ง THG แต่ราคาหุ้นอาจลงลึกเกินไป และซึมซับข่าวร้ายไปมากแล้ว จึงเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมา
ท่ามกลางข่าวร้าย การรวบตัวผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการหลอกลวงเงินประชาชนของหมอบุญ แต่ราคาหุ้น THG กลับพุ่งขึ้นสวนทาง โดยการซื้อขายวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หุ้น THG ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 19.20 บาท ก่อนจะถูกเทขาย และอ่อนตัวลงมาปิดที่ 16.60 บาท เพิ่มขึ้น 70 สตางค์ มูลค่าซื้อขาย 347.68 ล้านบาท
ในรอบ 12 เดือน หุ้น THG เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 65 บาท หลังจากนั้นเริ่มอ่อนตัวลง และเมื่อประกาศผลประกอบการไตรมาสงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ซึ่งมีผลขาดทุน 302 ล้านบาท จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 649 ล้านบาท นักลงทุนจึงทยอยขายหุ้นออก จนราคาร่วงลงมาต่ำสุดที่ 13.40 บาท
ก่อนหน้าที่หมอบุญ จะถูกเปิดโปงการฉ้อโกงประชาชน โดยหลอกให้ลงทุนในโครงการต่างๆ รวมทั้งหลอกกู้เงินคนจำนวนมาก วงเงินความเสียหายอาจทะลุ 1 หมื่นล้านบาท THG เคยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับธุรกรรมอันชวนสงสัยของ 2 บริษัทย่อยของ THG ซึ่งปล่อยเงินกู้ให้บริษัทที่กลุ่มวนาสินถือหุ้นใหญ่กว่า 100 ล้านบาท และยังสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศวงเงิน 55 ล้านบาท แต่ไม่มีการส่งมอบสินค้า
THG ซึ่งปัจจุบัน บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) หรือ RAM เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 24.59% ของทุนจดทะเบียน ได้ประกาศปรับโครงสร้างผู้บริหารทันที โดยบทบาท นางจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาหมอบุญเป็นเพียงกรรมการบริษัท
และอาจพิจารณาขอมติจากผู้ถือหุ้นบริษัท ถอดนางจารุวรรณ พ้นจากกรรมการ THG เนื่องจากมีมลทินในคดีร่วมกันหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน และถูกจับกุมดำเนินคดีอยู่
การบริหารงานของ THG ตกอยู่ในมือของกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงเต็มตัว โดยกลุ่มวนาสินอาจมีบทบาทเป็นเพียงผู้ถือหุ้นเท่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่า หุ้นที่กลุ่มหมอบุญถืออยู่จะเหลือเท่าไหร่ เพราะอาจทยอยขายหุ้นออกไปบ้างแล้ว
ตัวเลขที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 กลุ่มหมอบุญถือหุ้นรวมกันสัดส่วนประมาณ 18% ของทุนจดทะเบียน แต่ตัวเลขการถือหุ้นจริงในปัจจุบันอาจลดลงมาก
หุ้น THG ที่พุ่งขึ้นสวนกับข่าวร้ายคดีหมอบุญที่ถล่มใส อาจเป็นเพราะนักลงทุนประเมินว่า ราคาหุ้นได้สะท้อนรับข่าวร้ายหมดแล้ว และราคาตกลงมาถึงก้นเหว จนเป็นจุดที่น่าสนใจช้อนซื้อ
และการบริหารงานใน THG น่าจะดีขึ้น เพราะไม่มีกลุ่มหมอบุญร่วมในการบริหาร
ผลประกอบการ THG มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง เพียงแต่กำไรชะลอตัวในปี 2566 และงวด 9 เดือนแรกปีนี้ พลิกมาขาดทุน
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง โดยอัตราเงินปันผลจากผลกำไรจากการดำเนินงานปี 2566 อยู่ที่ 2.71%
สิ่งที่นักลงทุนยังต้องระวังคือ ปัญหาที่กลุ่มหมอบุญสร้างไว้ใน THG ยังมีความเสียหายอะไรที่สาธารณชนยังไม่รับรู้ซ่อนอยู่หรือไม่ ยังมีอะไรที่ฝ่ายบริหารบริษัทชุดปัจจุบันต้องตามล้างตามเช็ดอีกหรือไม่
จะช้อนเก็บหุ้น THG ต้องมั่นใจว่า หมอบุญไม่ได้ซุกอะไรไว้ใต้พรมอีก
