เอลซัลวาดอร์ผุดแนวคิดให้เช่าภูเขาไฟ 170 แห่งแก่ผู้ประกอบการเหมืองขุดบิทคอยน์ หวังเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันอุตสาหกรรมคริปโต แม้ว่ากำไรบิทคอยน์ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงของเอลซัลวาดอร์จะเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จากกฎหมายการนำพลังงานความร้อนใต้พิภพเชิงนวัตกรรมมาใช้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและชัดเจนขึ้น
นายนายิบ บูเคเล่ ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ได้ผุดไอเดียสำรวจวิธีการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขุดบิทคอยน์โดยเสนอแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์นั่นคือการให้เช่าภูเขาไฟในประเทศแก่ผู้ประกอบการธุรกิจเหมืองขุด ซึ่งแนวคิดนี้ถูกแบ่งปันในโพสต์โซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนบน X (เดิมคือ Twitter) โดยนักขุดสามารถใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพจากภูเขาไฟเพื่อแปรเป็นพลังงานไฟฟ้ามาใช้สำหรับการขุดบิทคอยน์อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้แรงบันดาลใจมาจากโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ที่เน้นถึงความสำเร็จในการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพของเอลซัลวาดอร์ ซึ่งได้นำไปใช้ในการขุดบิทคอยน์จำนวน 474 BTC มูลค่า 46 ล้านดอลลาร์แล้ว
ขณะที่ในการตอบการสนทนาในโพสต์ดังกล่าว บูเกเลชี้ให้เห็นว่าประเทศนี้มีภูเขาไฟ 170 แห่ง ซึ่งให้แหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดนักขุดจากทั่วโลกที่ต้องการลดต้นทุนได้
“ด้วยภูเขาไฟจำนวน 170 ลูก โครงการ 'เช่าภูเขาไฟเพื่อขุด Bitcoin' อาจมีความสมเหตุสมผล” บูเคเล่ กล่าว
ด้าน ดาเนียล อัลวาเรซ ผู้อำนวยการทั่วไปด้านพลังงานไฮโดรคาร์บอน และเหมืองแร่ตอบรับข้อเสนอแนะของประธานาธิบดีทันที เขายืนยันว่าทีมงานของเขาจะเริ่มเตรียมกฎหมายพลังงานความร้อนใต้พิภพฉบับใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแผนริเริ่มดังกล่าว
ขณะที่แม็กซ์ ไคเซอร์ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านบิทคอยน์ของประธานาธิบดีชื่นชมแนวคิดดังกล่าว โดยเน้นย้ำว่าแนวคิดนี้ทำให้เอลซัลวาดอร์เป็นผู้นำด้านการนำบิทคอยน์มาใช้เขากล่าวว่า
“การเช่าภูเขาไฟเพื่อขุดบิทคอยน์ของเอลซัลวาดอร์ จะทำให้ประเทศนี้ขึ้นเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านความมั่นคงของการถือครองบิทคอยน์ต่อหัว (BPC) ของโลก” แม็กซ์ ไคเซอร์ กล่าว
กำไรจากถือครองบิทคอยน์
โครงการริเริ่มที่เสนอนี้สอดคล้องกับการที่บิทคอยน์ของเอลซัลวาดอร์ได้รับกำไรที่ยังไม่ได้รับจริงจำนวนมาก (ส่วนต่างของราคาซื้อในอดีตเทียบราคาที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน) ท่ามกลางการพุ่งขึ้นของตลาดคริปโตในวงกว้าง
ทั้งนี้ตามข้อมูลของ NayibTracker ระบุว่าประเทศเอลซัลวาดอร์ถือครองบิทคอยน์มากกว่า 6,000 BTC โดยมีกำไรที่ยังไม่รับรู้เกิน 168 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Bitcoin Office อย่างเป็นทางการของประเทศอเมริกากลาง สะท้อนให้เห็นว่ามีโทเค็นรวมอยู่ 5,932 โทเค็น ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 585.2 ล้านดอลลาร์ในราคาปัจจุบัน
เอลซัลวาดอร์เริ่มสะสมบิทคอยน์ในปี 2564 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำได้รับการประกาศให้เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประเทศนี้ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในเส้นทางของตน แม้จะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคำเตือนอย่างต่อเนื่องจากองค์กรทางการเงิน เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เกี่ยวกับการนำ บิทคอยน์มาใช้
อย่างไรก็ดีจึงไม่น่าแปลกใจที่ประธานาธิบดีบูเคเล่ อวดอ้างถึงความสำเร็จของแผนคงคลังสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยการเก็บบิทคอยน์ในโพสต์ X ล่าสุดโดยระบุว่า "ฉันบอกคุณแล้ว"
