หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA พุ่งทะยานโดยไร้ปัจจัยสนับสนุน จนตลาดหลักทรัพย์ฯ ทนดูต่อไปไม่ได้ ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 ซึ่งไม่รู้ว่า จะดับความร้อนแรงหุ้นยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของตลาดหุ้นไทยได้หรือไม่
DELTA ติด 10 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดมายาวนาน ขณะที่ราคาหุ้นสร้างจุดสูงสุดเป็นรายวัน โดยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าภาวะตลาดหุ้นจะผันผวนเพียงใดก็ตาม
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับราคาหุ้นที่ดีดตัวขึ้นอย่างผิดปกติ และไม่มีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์คนใดแนะนำให้นักลงทุนซื้อ ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหว ไม่มีผลใดๆ ต่อหุ้น DELTA ซึ่งยังถูกลากขึ้นจนทะลุฟ้า
วันพุธที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา DELTA พุ่งแรงจัด ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น ทั้งที่ภาวการณ์ลงทุนโดยรวมซบเซา โดยปิดที่ 173.50 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 2,367 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่งประจำวัน
คำนวณจากราคาปิด มาร์เกตแคปหรือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ DELTA มีจำนวน 2.16 ล้านล้านบาท ค่าพี/อี เรโ ช 100.68 เท่า และราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีเพิ่มเป็น 28.03 เท่า
ราคาหุ้น DELTA วิ่งแซงหน้าปัจจัยพื้นฐานทุกด้านไปไกลมาก จนเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงสุดๆ
นักลงทุนรายย่อยที่ถือหุ้น DELTA ที่ปรากฏในวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 22,655 ราย ส่วนใหญ่น่าจะขายหุ้นทำกำไรไปแล้ว ส่วนนักลงทุนทั่วไป คงมีน้อยคนที่จะเข้าไปเสี่ยงกับ DELTA
และราคาหุ้นที่ขึ้นมาเย้ยฟ้าท้าดินจนถึงวันนี้ น่าจะเกิดจากนักลงทุนต่างชาติ และน่าจะเป็นฝรั่งหัวดำมากกว่า
การลากราคาหุ้น DELTA เป้าหมายไม่ใช่การปั่นราคาเพื่อทำกำไรจากตัวหุ้น แต่อาจมีเป้าหมายเพื่อปั่นดัชนี 50 โดยหวังผลทำกำไรจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี 50
ฝรั่งหัวดำอาจซื้อสัญญาล่วงหน้าดัชนี 50 ขึ้น หรือซื้อสัญญา LONG ดัชนี 50 ไว้ จึงต้องพยายามผลักดันดัชนี 50 ขึ้น เพื่อทำกำไรจากสัญญาที่ซื้อไว้
เครื่องมือในการผลักดันดัชนี 50 ดีที่สุดคือ หุ้น DELTA ซึ่งมีน้ำหนักในการคำนวณประมาณ 12% ของดัชนี
หรือการขึ้นลงของราคาหุ้น 1 บาท จะมีผลต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์กว่า 1 จุด
ถ้าฝรั่งหัวดำซื้อสัญญา LONG ดัชนี 50 ไว้ นักลงทุนรายย่อยที่เล่นดัชนี 50 ต้องหลีกเลี่ยงซื้อสัญญา SHORT หรือถ้าถืออยู่ต้องรีบขายสัญญาทิ้ง เพราะอาจขาดทุนย่อยยับจากการเก็งกำไรสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี 50
การดีดตัวของหุ้น DELTA 8 บาทเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีผลต่อดัชนีประมาณ 10 จุด ซึ่งถ้าตัดหุ้น DELTA ออก ดัชนีเมื่อวันพุธอาจติดลบประมาณ 8 จุด แทนที่จะบวกกว่า 2 จุด
ทุกคนรู้ ทุกฝ่ายเห็น นักลงทุนทั้งตลาดหุ้น สัมผัสได้ถึงความไม่ปกติของ DELTA แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมตลาดหลักทรัพย์จึงไม่สามารถควบคุม กำกับ หรือจัดการกับหุ้นตัวยักษ์ที่มีไต้หวันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้
ปล่อยให้ DELTA ลอยนวล ทำให้ภาพการลงทุนที่แท้จริงของตลาดหุ้นถูกบิดเบือนมายาวนานหลายปี
ไม่อาจระบุได้ว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ไต้หวันอยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น DELTA หรือไม่
แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลัง ชักใยราคาหุ้น DELTA ต้องถือว่ากล้ามาก ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่ละอายสายตานักลงทุนของไทย และไม่ไว้หน้าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลให้การซื้อขายหุ้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
ดูแลให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาดอย่างปกติ แต่ DELTA กลับแหกทุกกฎกติกา เหมือนหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้นของไทยไร้น้ำยา เหมือนตลาดหุ้นไทยเป็นเครื่องเล่นของฝรั่งหัวดำ
มาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 ซึ่งมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายนถึงวันที่ 11 ธันวาคมนี้ โดยกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสดหรือบัญชีแคชบาลานซ์และห้ามคำนวณวงเงินซื้อขายหุ้น ไม่อาจคาดหมายได้ว่า จะสยบความคึกคะนองและความผยองของหุ้น DELTA ได้หรือไม่
เพราะหุ้นตัวนี้ไม่เคยสลด ไม่เคยเกรงกลัวใคร
ถ้ามาตรการกำกับการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 และขั้น 3 ยังสยบ DELTA ไม่ได้ นักลงทุนคงอยากรู้ว่า ตลาดหลักทรัพย์จะทำอย่างไรต่อไป
ถอด DELTA จากการคำนวณดัชนีดีไหม ดูซิว่าจะแผลงฤทธิ์อีกหรือไม่