นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า โลกได้เปลี่ยนไปค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่โควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการทำงานเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งยังมีปัญหาเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทำให้เกิดสงคราม สร้างความตึงเครียด และความไม่แน่นอน จนเกิดผลที่ออกมา คือ ภาวะที่ไร้ประสิทธิภาพ ทั้งภาวะทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่มีความแปรปรวนได้สร้างความเสียหายต่อผู้คนบ่อยครั้งและเป็นมูลค่ามหาศาล
"สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความตระหนักให้คนในโลกว่า ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมมือกันช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อม ไม่ใช่เพียงแต่ผลกำไรทางธุรกิจ" นายสมคิด กล่าว
หากมองมาที่ในปัจจุบันความรุนแรงและรวดเร็วที่สร้างการเปลี่ยนแปลงคงหนีไม่พ้นเทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามา และขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิทยาการทางด้านไอที ดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีดังกล่าวได้เปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจโดยสิ้นเชิง เกิดการดิสรัปอะไรที่คิดว่าแน่นอนและมั่นคงในวันนี้ ในวันข้างหน้าอาจหายไปได้เช่นกัน ส่งผลให้ธุรกิจหลายรายที่ปรับตัวไม่ทันต้องจากหายไป
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามานี้ ซึ่งทำให้ประเทศไทย หรืออีกหลายๆ ประเทศต้องติดตาม คงเป็นเรื่องของนโยบายใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือ ความไม่แน่นอนของโลกที่จะเพิ่มขึ้น มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา หากจะทำธุรกิจต้องคำนึงถึงความเร็วและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญ
"ถ้าใครไม่เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัล นำ Big data และ AI มาใช้ ความล่าช้า ล้าหลัง และความไร้ความแม่นยำจะทำให้อยู่ไม่ได้ ภายใต้โลกที่มีแต่ความไม่แน่นอนในตอนนี้" นายสมคิด กล่าว
อย่างไรก็ตาม รูปแบบของการดำเนินธุรกิจ และจุดมุ่งหมายในการทำธุรกิจทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างผลกำไรและรายได้ต่อไปที่เป็นจุดมุ่งหมายของธุรกิจ ซึ่ง WHA Group ที่นำโดยนางจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA ได้ให้ความสำคัญสิ่งเหล่านี้อย่างยิ่ง ซึ่งได้เตรียมตัวมาในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า จุดมุ่งหมายพันธกิจของ WHA จะไม่มุ่งเน้นกำไรและรายได้อย่างเดียว แต่จะเน้นการสร้างความยั่งยืน ความมั่นคง ความรวดเร็วและแม่นยำ กับการอยู่ร่วมกับสังคมและชุมชน