นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ดินภาครัฐ ในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของประชาชน จึงมอบหมายให้กรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหน้าที่ปกครองดูแลที่ราชพัสดุ นำที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ในความครอบครองของส่วนราชการต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในราชการ มาสนับสนุนการดำเนินโครงการของรัฐบาลด้านที่อยู่อาศัย และที่ทำกินให้แก่ประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุอยู่ก่อนวันที่ 4 ต.ค.46 ได้เช่าที่ราชพัสดุภายใต้โครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์" สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ตามนโยบายรัฐบาลในอัตราค่าเช่าผ่อนปรน และทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ และแหล่งเงินทุน เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นมากขึ้น และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล กรมธนารักษ์ จึงจัดทำโครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์" ด้วยการรับรองสิทธิการครอบครองโดยการจัดให้เช่าเพื่ออยู่อาศัยและทำกินของประชาชน ซึ่งในปี 67 ดำเนินการมอบสัญญาเช่าไปแล้ว 12 พื้นที่ รวม 3,200 ราย เนื้อที่มากกว่า 11,587 ไร่ แบ่งเป็น เพื่ออยู่อาศัย 1,530 ราย เนื้อที่ประมาณ 499 ไร่ และเพื่อการเกษตร 1,670 ราย เนื้อที่ประมาณ 11,000 ไร่
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า สำหรับในปีงบประมาณ 2568 กรมธนารักษ์มีเป้าหมายที่จะมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุอย่างต่อเนื่องอีก 13 พื้นที่ ได้แก่ หนองบัวลำภู นครสวรรค์ มุกดาหาร เพชรบูรณ์ อุดรธานี กาฬสินธุ์ สระบุรี เชียงราย ลำปาง นครราชสีมา กาญจนบุรี ราชบุรี และสุราษฎร์ธานี ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิการเช่าไม่น้อยกว่า 3,900 ราย
โดยมีอัตราค่าเช่าผ่อนปรน คือ เพื่ออยู่อาศัย หากไม่เกิน 100 ตารางวา คิดอัตราค่าเช่า 0.25 บาท/ตารางวา/เดือน หากเกิน 100 ตารางวา คิดอัตราค่าเช่า 0.50 บาท/ตารางวา/เดือน และเพื่อประกอบการเกษตร เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 20 บาท/ไร่/ปี หากเกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 30 บาท/ไร่/ปี ทั้งนี้ อัตราค่าเช่าเป็นไปตามสภาพทำเล และราคาประเมินรอบบัญชีที่บังคับใช้ ณ วันจัดให้เช่า
"กระทรวงการคลังพร้อมขับเคลื่อนโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ "สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน" เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน อันเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน" รมช.คลังกล่าว