JPMorgan (JPM) กล่าวในรายงานการวิจัยเมื่อวันจันทร์ว่า ภาคการขุดบิทคอยน์ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากราคาแฮชเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์ เรจินัลด์ สมิธ และ ชาร์ลส์ เพียร์ซ กล่าวว่า ราคาแฮชซึ่งเป็นตัวชี้วัดผลกำไรจากการขุดนั้น "เพิ่มขึ้น 29% นับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ BTC แซงหน้าการเติบโตของอัตราแฮชของเครือข่าย และค่าธรรมเนียมธุรกรรมก็เพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ของรางวัลบล็อก"
โดยมูลค่าตลาดรวมของหุ้นเหมืองแร่ที่ธนาคารติดตามพุ่งขึ้น 33% หรือราว 8 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน เนื่องมาจาก "การเพิ่มขึ้นอย่างมากของบิทคอยน์และความเชื่อมั่นที่กว้างยิ่งขึ้นต่อสกุลเงินดิจิทัลหลังการเลือกตั้ง"
โดยราคาบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้นถึง 30% สู่ระดับสูงสุดตลอดกาลหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้
รายงานระบุว่าอัตราแฮชของเครือข่ายเพิ่มขึ้น +2% ในเดือนนี้จนอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 718 เอ็กซาแฮชต่อวินาที (EH/s) (อัตราแฮชหมายถึงพลังการคำนวณรวมทั้งหมดที่ใช้ในการขุดและประมวลผลธุรกรรมบน บล็อคเชน แบบพิสูจน์การทำงานและเป็นตัวแทนของการแข่งขันในอุตสาหกรรมและความยากในการขุด)
ขณะที่ปัจจุบันผู้ขุด 14 รายที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่อยู่ในขอบข่ายการรายงานของธนาคารคิดเป็นประมาณ 28% ของเครือข่ายทั่วโลก และส่วนแบ่งอัตราแฮชของเครือข่ายยังคงสูงเป็นประวัติการณ์