ข้อมูลจาก Sensor Tower ระบุว่า Bybit, Bitget และ OKX รวมกันมีผู้ใช้งานรายเดือน 877,000 รายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่ชัดเจนว่าจากข้อมูลผู้ใช้ดังกล่าว เป็นการสร้างบัญชีซื้อขายเพื่อกระตุ้นราคาโดยฝ่าฝืนกฎหรือไม่
การเข้าถึงตลาดคริปโต : ข้อจำกัด และวิธีการเลี่ยงของผู้ใช้ในสหรัฐฯ
การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหลายแห่งทั่วโลก เช่น Bybit, Bitget และ OKX ยังคงปิดกั้นการใช้งานของผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดที่ว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้รับใบอนุญาตในประเทศ อย่างไรก็ตาม สถิติจาก Sensor Tower เผยว่าในเดือนสิงหาคมปีนี้ มีผู้ใช้งานรายเดือนในสหรัฐฯ เกือบล้านรายที่ยังคงเข้าใช้งานแอปเหล่านี้
แม้ข้อจำกัดจะมีผล แต่ชาวอเมริกันบางส่วนสามารถใช้ VPN เพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง IP และใช้ข้อมูลประจำตัวที่ได้มาจากบุคคลอื่นเพื่อเลี่ยงผ่านมาตรการ KYC อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างที่ชัดเจนในวิดีโอสาธิตแสดงกระบวนการเปลี่ยนตำแหน่ง IP ผ่าน VPN และการยืนยันตัวตนด้วย ID ของบุคคลอื่น ทำให้สามารถซื้อขายคริปโตบนแพลตฟอร์มอย่าง Bybit ได้ แม้ว่า ID ดังกล่าวจะเป็นของบุคคลที่อยู่นอกสหรัฐฯ
ผลกระทบต่อตลาดและการกำกับดูแล
เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความพยายามของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ที่ต้องการเข้าถึงตลาดสกุลเงินดิจิทัลระดับโลก แม้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางกฎหมายและการกำกับดูแลที่เข้มงวด
อย่างไรก็ดีหากย้อนกลับไปเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน Binance ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนอันดับหนึ่งของโลก ถูกบังคับให้จ่ายเงินเพื่อยุติคดีฟ้องร้องมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาที่ส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ชาวอเมริกันซื้อขายบนแพลตฟอร์มอย่างไม่เหมาะสม ตั้งแต่นั้นมาอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลก็ตระหนักดีว่าการมีลูกค้าในสหรัฐฯ อาจเป็นความผิดพลาดที่ต้องจ่ายแพง
ด้าน Polymarket อาจกำลังเรียนรู้เรื่องนี้เช่นกัน ท่ามกลางข่าวที่ว่าบ้านของซีอีโอของบริษัทถูกตรวจค้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยมีรายงานว่าเป็นเพราะผู้คนในสหรัฐฯ อาจซื้อขายในตลาดทำนายผลยอดนิยม ซึ่งขัดกับข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลในปี 2565 (แต่ใครจะรู้ว่ากระทรวงยุติธรรมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คนใหม่จะสนับสนุนการสืบสวนใดๆ หรือไม่)
แดเนียล อาโรเช่ หุ้นส่วนจาก d&a partners กล่าวถึงปรากฏการณ์นี้ว่า "แม้จะละเมิดข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความต้องการในการเข้าถึงตลาดระดับโลกอย่างชัดเจน"
การตอบสนองจากแพลตฟอร์ม เช่น Bybit, Bitget และ OKX ยังไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์ แม้จะมีมาตรการอย่างการบังคับใช้ข้อจำกัดตามภูมิภาค และการตรวจสอบตัวตนขั้นสูง
แนวโน้มการกำกับดูแลในอนาคต
เมื่อการเลี่ยงข้อจำกัดด้วย VPN และ ID ปลอมยังคงเกิดขึ้น หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ อาจต้องทบทวนและปรับปรุงมาตรการเพื่อป้องกันการละเมิดกฎหมาย และรับมือกับความท้าทายของอุตสาหกรรมคริปโตที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ นักลงทุนและผู้ใช้ควรตระหนักถึงความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของตลาดในระยะยาว