บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/2567 และผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2567กันไปแล้ว โดยหุ้นโรงไฟฟ้ายังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยม ด้วยจำนวนหุ้นที่มีให้เลือกลงทุนหลากหลาย และส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง ไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก โดยคัดเลือก 10 หุ้นโรงไฟฟ้าที่เป็นที่นิยมของนักลงทุนเพื่อเทียบงบในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ที่ผ่านมา
1.GULF บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 715,722 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ +37.08% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -5.79% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 61.00 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 70.75/37.00 บาท) ค่า P/E 46.25 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.36% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 14,269.54 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,095.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,174.32 ล้านบาท หรือ +41.35%
ผู้บริหาร GULF ระบุ ไตรมาส 4/2567 คาดรายได้รวมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากโครงการต่างๆ ของบริษัทที่เปิดดำเนินงานตามแผน โดยโครงการโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 4 (662.5 เมกะวัตต์) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้กำไรไตรมาส 3/2567 ทำได้ 4,710 ล้านบาท เติบโต 12% รับทรัพย์ธุรกิจพลังงานและส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ส่วนปี 2568 เติบโตก้าวกระโดดหลังควบรวม INTUCH เสร็จสิ้น
2.GPSC บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 114,904 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -15.98% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -0.61% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 40.75 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 56.50/35.75 บาท) ค่า P/E 32.65 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.80%, งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 3,062.61 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,216.46 ล้านบาท ลดลง 153.85 ล้านบาท หรือ -4.78%
โบรกฯ ชูเป็นหุ้นเด่น เนื่องจากคาดการณ์ว่ากำไรปี 68 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 37% YoY และมองว่า Valuation ของ GPSC น่าสนใจที่ P/E ปี 68 ที่ 19.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (ปี 60-64 ซึ่งเป็น 5 ปีก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครน) ปัจจัยกระตุ้นในระยะใกล้คือผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่ดีขึ้น และโครงการ CFXD จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้เต็มที่
3.EGCO บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 58,964 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้น ปี 67 คือ -12.50% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -3.45% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 112.00 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 135.00/94.50 บาท) ค่า P/E - เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 5.75% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 5,517.62 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,854.65 ล้านบาท ลดลง 337.03 ล้านบาท หรือ -5.76%
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/67 มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,604 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,463 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ในขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรจากการดำเนินงาน 7,014 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,518 ล้านบาท
4.BGRIM บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 52,659 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้น ปี 67 คือ -25.87% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -5.16% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 20.20 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 30.00/19.50 บาท) ค่า P/E 43.13 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 1.76% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 769.92 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,421.39 ล้านบาท ลดลง 651.47 ล้านบาท หรือ -45.83%
ทั้งนี้ไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของปริมาณขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ.ปริมาณขายไอน้ำในประเทศไทย และปริมาณขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม
5.EA บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 21,634 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -86.89% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -14.71% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 5.80 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 48.75/3.10 บาท) ค่า P/E 4.77 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 5.13% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 1,852.07 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,442.97 ล้านบาท ลดลง 4,590.90 ล้านบาท หรือ -71.25%
ส่วนงบการเงินรวมไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิ 421.63 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 1,962 ล้านบาท
6.RATCH บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 64,706 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -5.56% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -2.46% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 29.75 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 35.25/25.25 บาท) ค่า P/E 11.93 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67คือ 5.38% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 5,485.20 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,754.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 730.51 ล้านบาท หรือ +15.36%
ผู้บริหารระบุ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจผลิตไฟฟ้าสร้างรายได้แก่บริษัท จำนวน 31,949 ล้านบาท คิดเป็น 95% ของรายได้รวม สำหรับรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน มีจำนวน 4,567 ล้านบาท คิดเป็น 14% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก จำนวน 27,382 ล้านบาท คิดเป็น 82% ของรายได้รวม
7.GUNKUL บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 20,430 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -17.86% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -9.45% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 2.30 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 3.18/1.94 บาท) ค่า P/E 16.57 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 2.58% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 1,140.84 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,369.43 ล้านบาท ลดลง 228.59 ล้านบาท หรือ-16.69%
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิแตะ 460.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.93 ล้านบาท หรือ 12.17% รับแรงหนุนจากการดำเนินธุรกิจหลักที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจการขายอุปกรณ์ไฟฟ้า ธุรกิจก่อสร้าง รายได้จากการขายทรัพย์สินตามสัญญาเช่าเงินทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ
8.CKP บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 26,177 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี 67 คือ -1.23% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -8.00% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 3.22 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 4.28/3.04 บาท) ค่า P/E 19.92 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 2.58% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 803.87 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 919.45 ล้านบาท ลดลง 115.58 ล้านบาท หรือ -12.57%
โดยในไตรมาส 3 มีรายได้รวม 2,901.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 ขณะที่งวด 9 เดือนของปี 2567มีรายได้รวม 8,012.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ร้อยละ 29.6 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 รวมถึงมีอัตรากำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) อยู่ที่ร้อยละ 44.4 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
9.BCPG บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 16,626 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้น ปี 67 คือ -36.93% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -9.02% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 5.55 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 9.00/5.05 บาท) ค่า P/E 11.42 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 4.37% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 1,655.57 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,277.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 377.84 ล้านบาท หรือ +29.57%
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/67 ขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 28.38 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 564.77 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/67 มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 452.7 ล้านบาท ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 356.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
10.BPP บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) มาร์เกตแคปล่าสุด 34,439 ล้านบาท ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้น ปี 67 คือ -22.07% ผลตอบแทนราคา 5 วัน คือ -4.24% ราคา ณ 15 พ.ย.67 คือ 11.30 บาท (ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 15.20/11.00 บาท) ค่า P/E 13.68 เท่า อัตราเงินปันผล YTD ปี 67 คือ 6.96% งบการเงิน 9 เดือนปี 67 กำไรสุทธิ 2,792.88 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,550.60 ล้านบาท ลดลง 2,757.72 ล้านบาท หรือ -49.68%
ผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,133.98 ล้านบาท ลดลง 45.97% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,098.70 ล้านบาท สาเหตุมาจากมีการรับรู้ผลการดำเนินงานที่ลดลงจากโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งได้รับผลกระทบจากจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
อย่างไรก็ตาม พบว่าใน 10 หุ้นโรงไฟฟ้าดังกล่าว ส่วนใหญ่มีอัตราเปลี่ยนแปลงของกำไรในช่วง 9 เดือนของปี 2567 ลดลงเมื่อเทียบกับ 9 เดือนของปี 2566 มีเพียง 3 หุ้นที่ยังแข็งแกร่ง นั่นคือ GULF RATCH และ BCPG ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทนั่นเอง!