อีลอน มัสก์ หนุนตามจุดยืนโพสต์ทวีตของ ไมค์ ลี วุฒิสมาชิกจากรัฐยูทาห์ อีกครั้งซึ่งเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารกำกับดูแลนโยบายการเงินมากขึ้นและยุบธนาคารกลาง
ลีโต้แย้งว่าคำกล่าวล่าสุดของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐที่ว่าเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะขอให้เขาลาออกก็ตาม ถือเป็นระบบที่ไร้การควบคุม โดยลีเขียนผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของเขาว่า “ฝ่ายบริหารควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประธานาธิบดี นั่นคือที่มาของรัฐธรรมนูญ ธนาคารกลางสหรัฐเป็นตัวอย่างหนึ่งจากหลายๆ กรณีที่แสดงให้เห็นว่าเราเบี่ยงเบนไปจากรัฐธรรมนูญอย่างไร นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรยุติธนาคารกลางสหรัฐ”
การเรียกร้องของลีให้ยกเลิกระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้สนับสนุน Bitcoin โดยกลุ่มคนที่สนับสนุนแนวคิดสูงสุด ซึ่งโต้แย้งว่าสกุลเงินเฟียตที่บริหารจัดการโดยศูนย์กลาง มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินลดต่ำลง
Bitcoin เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ในขณะที่หนี้สาธารณะของสหรัฐอเมริกาพุ่งสูงถึง 35 ล้านล้านดอลลาร์ ด้านบิทคอยน์ได้รับการยกย่องเพิ่มมากขึ้นจากผู้กำหนดนโยบาย บุคคลทั่วไป และสถาบันการเงินต่างๆ ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากการพิมพ์เงินอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายสิบปีโดยธนาคารกลางสหรัฐ
ด้าน จิมมี่ พาโทรนิส หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของรัฐฟลอริดาและหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลกองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐ กำลังผลักดันให้กองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐลงทุนใน BTC เพื่อปกป้องอำนาจซื้อของผู้บริโภคจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ลดค่าลง
ซินเทีย ลัมมิส วุฒิสมาชิกรัฐไวโอมิง ได้นำเสนอร่างกฎหมาย Bitcoin Strategic Reserve ในเดือนกรกฎาคม 2567 ต่อวุฒิสภา โดย ลัมมิสกล่าวถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการสูญเสียอำนาจซื้อที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะว่าเป็นแรงผลักดันหลักของร่างกฎหมายฉบับนี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2568 ยังได้กล่าวถึง “คลังเก็บ” บิทคอยน์เชิงกลยุทธ์ในงานประชุม Bitcoin 2024 ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ไม่นานหลังจากที่ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุม ประธานาธิบดีคนใหม่ก็ได้แย้มว่าจะใช้บิทคอยน์เพื่อชำระหนี้ของประเทศ