มูลค่าของบิทคอยน์เพิ่มขึ้นแซงหน้าโลหะเงิน จนกลายเป็นสินทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับแปดของโลกโดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ BTC สูงถึง 89,560 ดอลลาร์ โดยมูลค่าตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 ล้านล้านดอลลาร์
ตามรายงานของ Infinite Market Cap ระบุว่าเป็นครั้งที่สองที่บิทคอยน์แซงหน้าโลหะเงินในปีนี้ สำหรับบริบทบิทคอยน์ที่แซงหน้าเงินครั้งแรกในเดือนมีนาคมซึ่งการพุ่งขึ้นครั้งที่สองนี้ทำให้ตำแหน่งของ BTC แข็งแกร่งขึ้นในฐานะสินทรัพย์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ต้องระวัง
ทองคำยังคงอยู่เหนือบิทคอยน์
Kobessi ซึ่งให้รายละเอียดของข้อมูลเชิงลึกของตลาดทุน ได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของบิทคอยน์ครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นก้าวสำคัญ อย่างไรก็ตาม Kobessi ตั้งข้อสังเกตถึงความโดดเด่นของทองคำเหนือ BTC และยอมรับว่า "ความจริงที่ว่าทองคำยังคงใหญ่กว่า บิทคอยน์ถึง 10 เท่านั้นเหลือเชื่อมาก สิ่งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่าทองคำมีขนาดใหญ่เพียงใด แต่ยังแสดงให้เห็นว่าบิทคอยน์สามารถใหญ่แค่ไหน"
ดังที่กล่าวไปแล้ว การเปรียบเทียบล่าสุดกับเงิน ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งเก็บมูลค่าที่มั่นคงมานาน สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่เปลี่ยนไปในหมู่นักลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งมองว่า BTC เป็นมากกว่าสินทรัพย์เก็งกำไรมากขึ้น
โมเมนตัมไม่แน่นอน และอยู่ได้ไม่นาน
อย่างไรก็ตามการไต่ระดับของบิทคอยน์นั้นสั้น ๆ สกุลเงินดิจิทัลลดลง 1% และซื้อขายที่ประมาณ 87,695 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เผยแพร่ข้อมูลนี้ ตาม CoinMarketCap จากการอัปเดตล่าสุดจาก Infinite Market Cap โลหะเงิน ได้ทวงคืนตำแหน่งกลับมาที่อันดับที่แปดในการจัดอันดับสินทรัพย์ทั่วโลก ผลักดัน BTC กลับไปอยู่ที่อันดับที่เก้า
ทั้งนี้ดัชนี "Bitcoin Industrial Complex" ซึ่งได้ติดตาม BTC ETFs, MicroStrategy และ Coinbase ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้เพิ่มกิจกรรมการซื้อขาย โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 38 พันล้านดอลลาร์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม้ว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของทองคำจะยังคงมากกว่าบิทคอยน์ถึงสิบเท่า แต่ความน่าดึงดูดใจของความขาดแคลนของ BTC ยังคงดึงดูดนักลงทุนที่มองหาการป้องกันความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์จากความผันผวนของตลาดแบบดั้งเดิม