หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ถูกพูดถึงกันแทบทุกซอกมุมของตลาดหุ้น เพราะเป็นหุ้นที่สามารถบิดเบือนภาพการลงทุนที่แท้จริงได้
DELTA พุ่งทะยานมาต่อเนื่อง สวนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของโบรกเกอร์แทบทุกสำนักที่ระบุว่า ราคาหุ้นแพงเกินไป วิ่งมาไกลจนเกินปัจจัยพื้นฐานรองรับ แม้ค่าพี/อี เรโชเกือบ 100 เท่าแล้วก็ตาม
การปรับตัวขึ้นแรงของหุ้น DELTA เพียงตัวเดียว อาจทำให้ดัชนีหุ้นเขียวขจี หรือบวกขึ้นนับสิบจุด ทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดปรับตัวลง และดัชนีควรเป็นตัวแดงหรือติดลบ
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคป DELTA พุ่งขึ้นทะลุ 2.02 ล้านล้านบาทแล้ว คำนวณจากราคาปิดวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ 162 บาท และกลายเป็นหุ้นพี่เบิ้มใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น ทิ้งห่างมาร์เกตแคปหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ชนิดไม่เห็นฝุ่น
สัดส่วนมาร์เกตแคปของ DELTA คิดเป็น 11.18% ของมาร์เกตแคปรวมของตลาด ซึ่งมีจำนวน 18.06 ล้านล้านบาท น้ำหนักในการคำนวณดัชนีของ DELTA จึงเท่ากับ 162.27 จุด
ทุกการขึ้นลงของหุ้น DELTA 1 บาท จะมีผลต่อการขึ้นลงของดัชนี 1 จุดเศษ แต่วันใดที่ DELTA ถูกบวกขึ้น 10 บาท จะทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นเฉพาะ DELTA เพียงตัวเดียวกว่า 10 จุด
ในทางปัจจัยพื้นฐาน ราคาหุ้น DELTA มาไกลเกินไป และไม่มีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์สำนักไหนตั้งราคาเป้าหมายไว้สูงขนาดนี้ โดยค่า พี/อี เรโชพุ่งขึ้นไป 94 เท่าแล้ว ขณะที่ราคาต่อมูลค่าทางบัญชีพุ่งขึ้นไป 26 เท่า
ไม่น่าจะมีโบรกเกอร์ใดแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้น DELTA แล้ว แต่ราคาที่ยังเดินหน้าอย่างไม่ย่อท้อ ซึ่งไม่ได้เกิดจากแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อย แต่เกิดจากนักลงทุนรายใหญ่ และเป็นรายใหญ่ต่างชาติ โดยเชื่อกันว่า การลากราคาหุ้น DELTA เพื่อผลในการผลักดันดัชนี 50 และอาจเล็งผลเลิศถึงการกระตุ้นราคาหุ้น DELTA ตัวแม่ในตลาดหุ้นไต้หวัน
นักลงทุนต่างชาติมีการเก็งกำไรจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET 50 โดยซื้อสัญญา LONG หรือ SET50 ขาขึ้นไว้ จึงใช้ DELTA เป็นตัวผลักดัน SET 50 เพื่อทำกำไรในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สิ่งที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปวดหัว เพราะไม่อาจกำกับดูแลราคาหุ้น DELTA ที่ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สะท้อนถึงการซื้อขายที่เป็นไปโดยไม่ปกติตามกลไกตลาดคือ สภาพคล่องหรือสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนรายย่อยต่ำ
แม้ว่าจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย DELTA จะมี 22,655 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 23.08% ของทุนจดทะเบียน แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่ 8 อันดับแรก ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 93.06%
ผู้ถือหุ้นรายย่อยตัวจริงจำนวน 22,655 ราย จึงถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนไม่ถึง 7% ของทุนจดทะเบียน เท่ากับผู้ถือหุ้นรายย่อยแต่ละคน เฉลี่ยถือหุ้น DELTA คนละไม่เท่าไหร่
ฟรีโฟลท หรือสภาพคล่อง DELTA จึงต่ำมาก และปริมาณหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียนจำนวนน้อย ย่อมเอื้ออำนวยต่อการสร้างราคา
DELTA กลายเป็นหุ้นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของตลาดหลักทรัพย์ เพราะการตรวจสอบการซื้อขายไม่พบความผิดปกติใด จึงไม่สามารถดำเนินมาตรการดับความร้อนแรงที่ไม่ปกติของหุ้นตัวนี้ได้
แต่ถ้าไม่มีมาตรการใดควบคุม DELTA จะเป็นหุ้นที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือปั่นดัชนี 50 และบิดเบือนภาพการลงทุนในตลาดหุ้น
ดัชนีที่ดูดี เขียวสดใส อาจเกิดขึ้นเพราะหุ้น DELTA เพียงตัวเดียว ทั้งที่บรรยากาศการลงทุนซบเซาอย่างหนัก และหุ้นเกือบทั้งตลาดทรุดลง เหมือนที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
ตลาดหลักทรัพย์จะปล่อยหุ้น DELTA เป็นตัวประหลาด โดยไม่มีมาตรการใดควบคุมได้เลยหรือ