"เอเวอร์แลนด์" เปิดผลงาน 9 เดือนปี 67 รายได้รวมแตะ 980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน รับปัจจัยหนุนจากการทยอยรับรู้โครงการแนวราบ บ้านเดี่ยวแบรนด์ “มายโฮม” และทาวน์โฮมแบรนด์ “เอเวอร์ซิตี้” รวมถึงโครงการแนวสูง ย่านสนามบินน้ำ ฟากบิ๊กบอส “สวิจักร์ โลจายะ” ระบุมี Backlog รอโอนกว่า 500 ล้านบาทในไตรมาส 4 สนับสนุนรายได้ปี 67 โตสวย แย้มโครงการแนวราบยังเติบโตดีเตรียมเปิดตัวใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาทในปี 68
นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (EVER) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เดอะโพลิแทน” ทำเลย่านสนามบินน้ำ โครงการแนวราบ-บ้านเดี่ยว แบรนด์ “มายโฮม” ทำเลย่านสุวินทวงศ์ และโครงการแนวราบ-ทาวน์โฮม แบรนด์ “เอเวอร์ซิตี้” เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 980 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162 ล้านบาท หรือ 20% ขณะขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 194 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 275 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 มีรายได้รวม 363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27 ล้านบาท หรือ 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 336 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 51 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 79 ล้านบาท
ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลรายได้เพิ่มขึ้นมาจากโครงการแนวราบเป็นหลัก ในแบรนด์ “มายโฮม ได้แก่ โครงการ ซิลเวอร์เลค วินด์ เฟส 1 และเฟส 2 ทาวน์โฮมแบรนด์ เอเวอร์ซิตี้” โครงการเอเวอร์ซิตี้ รีซอร์ต้า สุขสวัสดิ์ 30-ราษฎร์บูรณะ โครงการ เอเวอร์ซิตี้ ศรีนครินทร์-หนามแดง ขณะที่มีการรับรู้จากโครงการแนวสูง “เดอะ โพลิแทนรีฟ” และ มายรีสอร์ท หัวหิน เป็นต้น
“ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนเป็นที่พอใจ และเชื่อว่าผลประกอบการโดยรวมในปีนี้จะเติบโตขึ้นจากปีก่อน แม้สถานการณ์กดดันไม่ว่าจะเป็นภาวะการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมถึงไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ แบงก์เข้มงวด แต่เรายังเห็นว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์ในโครงการแนวราบยังไปได้ รวมถึงโครงการที่เปิดขายได้รับการตอบรับที่ดี รวมทั้งมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) 520 ล้านบาททยอยโอนในไตรมาส 4 นี้สนับสนุน” นายสวิจักร์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญในการขยายโครงการแนวราบต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดโครงการแนวราบใหม่จำนวน 2-3 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาทในปีหน้า ได้แก่ แบรนด์ มายโฮม โครงการซิลเวอร์เลค วินด์ เฟส 3 จำนวน 31 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.99-15 ล้านบาทต่อแปลง โครงการบ้านเดี่ยวจำนวน 33 ยูนิต ภายใต้โครงการ 33 Residence ที่บริษัทได้เข้าซื้อที่ดินจากสุวินทวงศ์ โกลด์ แอสเซ็ท มูลค่า 167 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการที่มีความหรูหรา บ้านระดับพรีเมียม Luxury Home เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าสัดส่วนแนวราบเป็น 50-55% ในปี 2569 จากปัจจุบันที่ 40%