xs
xsm
sm
md
lg

จับตา JAS ต้องก่อหนี้ครั้งใหญ่?? หลังคว้าสิทธิ์พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพที่มา : premierleague
“จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล” คว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก-เอฟเอคัพ 3 ฤดูกาลรวด ส่งผลให้ต้องหาเงินเฉียด 2 หมื่นล้านบาท รองรับการลงทุน พร้อมตั้ง “อวานการ์ด แคปปิตอล ” เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เตรียมขอผู้ถือหุ้น 7 มกราคม 2568 ผู้บริหารเผยการเบนเข็มสู่ธุรกิจนี้เพราะเป็นแฟนบอลตัวยงและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ และอยู่ระหว่างเจรจาสถาบันการเงินเพื่อกู้ยืม โบรกเกอร์ประเมิน JAS รับผลดี คาดใช้เงินสดและก่อหนี้รองรับการลงทุน ขณะปัจจุบันมีเงินสดในมือ 4.7 พันล้านบาทและเงินที่จะได้จากการขายหุ้นทุนซื้อคืนอีก 1 พันล้านบาท แนะจับตาวิธีการระดมทุนครั้งใหญ่ 

หุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS วิ่งรับข่าวการได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียงรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพบนอินเทอร์เน็ตทีวีข่าวดังกล่าวจึงสร้างความฮือฮาอีกครั้ง และส่งผลต่อราคาหุ้นทันที โดยราคาหุ้น JAS เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา แม้ช่วงเช้าจะวิ่งรับข่าวการคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 6 ฤดูกาลแต่ระหว่างวันราคาหุ้นก็ไม่เคลื่อนไหวมากนักปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.58 บาท ต่ำสุดที่ 2.38 บาท กระทั่งปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 2.38 บาท เท่ากับราคาปิดวันก่อนหน้าด้วยมูลค่าซื้อขาย 620 ล้านบาท และเช้าวันที่ 13 พ.ย.หุ้น JAS เปิดที่ 2.44 บาท และปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.50 บาทก่อนจะปิดที่ 2.44 บาทในช่วงเช้า ด้วยมูลค่าซื้อขายต 76.94 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่ามูลค่าการซื้อขายกลับสู่ปกติ

ทั้งนี้ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ตลท.ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เข้าทำรายการ เพื่อให้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียงรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพบนอินเทอร์เน็ตทีวี (Internet TV) และ ดิจิทัล ทีวี (Digital TV) รวมถึงชุดวิดีโอสั้น (Clips package) ตลอดระยะเวลารายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ 3 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่ 2025/26 หรือ 6 ฤดูกาล ในกรณีที่บริษัท ได้รับแจ้งจาก The Football Association Premier League Limited (FAPL) เป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19,167,723,414 บาท

ทั้งนี้ JAS มี บริษัทย่อยที่ ประกอบธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี (Internet TV Business) คือบริษัท แจส ทีวี จำกัด (เดิมคือ บริษัท ทรี บีบี ทีวี จำกัด) ให้บริการแฟลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต ทีวี ภายใต้ชื่อบริการ 3BB GIGATV
และบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ซึ่งดำเนินการจัดหา และรวบรวมคอนเทนต์ให้แก่ 3BB GIGATV ปัจจุบัน 3BB GIGATV ให้บริการผ่านกล่อง Android Box ที่มีคอนเทนต์หลากหลาย ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นทั้งในและต่างประเทศในการจัดหาคอนเทนต์ที่หลากหลาย รวมทั้งมีการให้บริการช่องกีฬาโดยเฉพาะอย่าง 3BB Sports One ด้วย

ดังนั้น ธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพจัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ กล่าวคือ ธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวีที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินการอยู่แล้ว รวมทั้งสามารถต่อยอดและขยายการดำเนินธุรกิจหลักที่ดำเนินการอยู่เข้าไปในประเทศลาวและกัมพูชาได้อีกด้วย คาดธุรกรรมนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในด้านการ เติบโตและขยายการลงทุนของธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ และในด้านการสร้างรายได้แก่กลุ่ม

ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) JAS
ตั้งที่ปรึกษาฯ เตรียมขอผู้ถือหุ้น 

ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) JAS เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2567 ได้อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว โดยมีระยะเวลา 3 ฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 และอาจขยายเป็น 6 ฤดูกาล หากได้รับการยืนยันจาก FAPL เป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 559.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 19,167.72 ล้านบาท

สำหรับ ธุรกรรมนี้ถือเป็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการสูงถึงร้อยละ 117.82 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมสิ่งตอบแทน และเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์อื่นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา จะมีขนาดรายการรวมร้อยละ 126.42 ซึ่งเข้าข่ายรายการประเภทที่ 4 ตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์

ดังนั้น JAS แต่งตั้ง บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ ภายใต้ประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์และจัดส่งรายงานความเห็นของที่ ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ (ค) จัดส่งหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยมีสารสนเทศอย่างน้อยตามประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และ (ง) จัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ

โดยบริษัทฯ จะต้องได้รับอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออก เสียงลงคะแนน โดยไม่นับคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย โปรดพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกรรมถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพในสารสนเทศ เกี่ยวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์

"ยืนยันจ่ายไม่เกิน 400 บ. ชมสดพรีเมียร์ลีก "


ดร.โสรัชย์ แถลงชี้แจงรายละเอียดลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ทั้งแนวทางการรับชมและราคา หลังจากที่ JAS ประกาศคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นเวลา 6 ฤดูกาล ซึ่งลิขสิทธิ์ 6 ฤดูกาล มีราคา 549,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 18,791,885,700 บาท ส่วนช่องทางการรับชมได้ผ่านช่องทางหลัก คือ MONOMAX ซึ่งเป็น Streaming platform และ MONO29 ซึ่งเป็น Free-to-air platform ของ MONO NEXT PCL. (MONO) และแนวทางในการจัดจำหน่ายผ่านทุก Network และ Mobile operators ด้วย ไม่ว่าจะเป็น App Store(IOS) และ Google Store, AIS หรือ TRUE เพื่อสนับสนุนให้คอนเทนต์มีการเข้าถึงผู้ชมได้มากที่สุด และในส่วนของฟรีทีวี ยืนยันว่ามีถ่ายทอดสดอย่างแน่นอน ส่วนอาจมีช่องเพิ่มหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการเจรจา ขณะที่เเบื้องต้นได้รับลิขสิทธิ์เป็นระยะเวลา 3 ปี แต่บอร์ดบริหารพรีเมียร์ลีกมีโอกาสอนุมัติให้เป็นระยะเวลา 6 ปี ซึ่งจะทราบผลที่ชัดเจนวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้

สำหรับ ราคา ยืนยันว่าถูกกว่าราคาตลาดปัจจุบันแน่นอน และมีนโยบายราคาเดียว ไม่ว่าจะรับชมผ่านทางช่องทางไหน จะไม่แพงกว่าราคาปัจจุบัน และอาจทำให้ต่ำกว่าคือไม่เกิน 400 บาทต่อเดือน และมีนโยบายราคาเดียว ไม่ว่าจะรับชมผ่านทางช่องทางไหน รักษาคุณภาพการถ่ายทอด ภาพคมชัดระดับ Full-HD ด้วยเทคโนโลยีการปรับ Auto bit rate ตามความเร็วของอินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์รับสัญญาณของผู้ชม และรับชมความละเอียด 4K ซึ่งช่องทางการรับชมหลากหลาย: นอกจาก MONO MAX แล้ว ยังมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องฟรีทีวี MONO 29 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ทั้งนี้ ราคาจะถูกกว่าราคาตลาดปัจจุบันแน่นอน และมีนโยบายราคาเดียว ไม่ว่าจะรับชมผ่านทางช่องทางไหน มีการรักษาคุณภาพการถ่ายทอด ภาพคมชัดระดับ Full HD ด้วยเทคโนโลยีการปรับ Auto Bit Rate ตามความเร็วของอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์รับสัญญาณของผู้ชม

"การตัดสินใจเข้ามาในธุรกิจนี้เกิดจากความเป็นแฟนบอลตัวยง และมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะไม่เอาเปรียบแฟนบอลอย่างแน่นอน " ดร.โสรัชย์ กล่าว

นายพิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในสัดส่วน 52.07% หรือกว่า 4,474,467,987 หุ้น : ที่มา SET
ทำความรู้จัก JAS

JAS หรือ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งโดยกลุ่มที่ปรึกษาคนไทยที่มีประสบการณ์ ในด้านวิศวกรรมโทรคมนาคมและการจัดการ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2525 ระยะเริ่มแรก บริษัทดำเนินธุรกิจในด้านการให้คำปรึกษาทางด้านวิศวกรรมและได้ขยายประเภทของธุรกิจให้กว้างขวางขึ้นเป็นลำดับ กระทั่งปี 2537 บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีการระดมทุนในตลาดเงินและตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาขยายธุรกิจ

ปัจจุบัน JAS ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน หรือ Holding Company มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ โดยเน้น 3 กลุ่ม หลักคือธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี ,ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี โซลูชั่น และ ธุรกิจอื่น ๆ โดยมี "นายพิชญ์ โพธารามิก" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 52.07%

ขณะผลการดำเนินงานของ JAS 3 ปีย้อนหลังพบว่าปี 2564 รายได้ 20,372.96 ล้านบาท ขาดทุน 1,500.70 ล้านบาท, ปี 2565 รายได้ 20,286.65 ล้านบาท ขาดทุน 2,028.59 ล้านบาท และปี 2566 รายได้ 28,769.41 ล้านบาท กำไร 19,837.38 ล้านบาท และตัวเลขสินทรัพย์รวมล่าสุดสิ้นปี66 มูลค่า 23,238.39 ล้านบาท ขณะมีหนี้สินรวม 7,001.48 ล้านบาท

เบี้ยวประมูลคลื่นความถี่ ถูกแบล็คลิสต์

เมื่อ 10 ปีก่อน JAS เป็นที่ฮือฮามาก ซึ่งนั่นเป็นยุคที่ประเทศไทยได้จัดประมูลคลื่นความถี่สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการในระบบ 4G จากคณะกรรมการกิจการ กระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ด กสทช. ด้วยเป้าหมาย การเปลี่ยนประเทศสู่ระบบดิจิทัลที่ใช้โมบายดาต้าอย่างสมบูรณ์ เป็นการเปลี่ยนจากระบบเดิมอย่าง 3G อะนาล็อก ครั้งนั้น การประมูล 4G คลื่น 900 MHz กินเวลายาวนานถึง 4 วัน และบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ที่เคาะประมูลในล็อตที่ 1 ได้ไปในราคาสูงถึง 75,654 ล้านบาท ทำให้เกิดความฉงนว่าJAS จะมีศักยภาพในการให้บริการหรือไม่ โดยเฉพาะเงินทุนที่จะนำมาจ่ายราคาใบอนุญาตจากเคาะการประมูลได้มูลค่าสูงลิบ แม้ “พิชญ์ โพธารามิก” ออกมายืนยันว่ากำลังเจรจาอยู่กับธนาคารกรุงเทพเพื่อหาหนังสือค้ำประกัน (แบงก์ การันตี) รวมถึงการติดต่อขอเช่าใช้เสาโทรคมนาคมกับ บมจ.กสท โทรคมนาคม และ ทีโอที และยืนยันในแผนธุรกิจและศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการน้องใหม่ และท้ายที่สุด เมื่อวันสุดท้ายของการชำระเงินค่าประมูลงวดแรก 8,040 ล้านบาท พร้อมหนังสือรับรองค้ำ ประกันทางการเงิน (แบงก์การันตี) อีกประมาณ 72,000 ล้านบาท ซึ่ง JAS ไม่มาตามนัด ยังผลให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) ที่ไม่ได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการ แขวนเครื่องหมาย H หุ้นของ JAS เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2559 และ ครั้งนั้น JAS ได้รับบทลงโทษจาก บอร์ด กสทช. คือค่าปรับ 644 ล้านบาท และขึ้นแบล็คลิสต์ไม่ให้เข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่

งบการเงิน บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS : ที่มา SET
หลายความท้าทาย ลุ้น JAS ฝ่าอุปสรรค

จากเหตุการณ์ในอดีต กระทั่งวันนี้ ที่ JAS เข้าประมูลงานครั้งนี้ จากผลการประมูลพรีเมียร์ลีกนี้ ถือว่ายังไม่จบกระบวนการ เพราะ JAS ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ซึ่งกำหนดจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 7 มกราคม 2568

นอกจากนี้ JAS และ FAPL จะต้องบรรลุข้อตกลงและลงนามในสัญญาฉบับสมบูรณ์ภายในวันที่ 15 มกราคม 2568 โดยผู้ชมในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา จะได้รับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพอย่างเต็มรูปแบบผ่านช่องทางของ JAS ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 เป็นต้นไป

ขณะที่ภารกิจใหญ่คือเงินทุน และการหาสมาชิกให้ได้ตามเป้าและอื่น ๆ ในหลายข้อจำกัดของธุรกิจรวมทั้งคุณภาพการถ่ายทอดสด ค่าบริการที่หากสูงขึ้นแฟนบอลจะลดลง และหากราคาต่ำ จะส่งผลกระทบต่อการทำกำไรของบริษัท อีกทั้งยังมีช่องเถื่อนที่แน่นอนว่ามีแฟนบอลไม่น้อยที่หันไปใช้ช่องทางดังกล่าว เป็นต้น เหล่านี้คือความท้าทายและเป็นก้าวแรกที่จะลุยกับลิขสิทธิ์ที่ได้มา ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า JAS จะสามารถทำให้ประสบผลกับสิ่งที่ได้มากเพียงใด

คาด JAS ก่อหนี้รองรับการลงทุน 

บล.กรุงศรี ระบุ JAS ประกาศคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพสำหรับประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ในทุกช่องทางถ่ายทอดสด (อินเตอร์เน็ต ทีวี, ดิจิทัล ทีวี, ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวีไอพีทีวีและ OTT) 3-6 ฤดูกาล (แล้วแต่วันยืนยันข้อตกลงระหว่าง JAS กับเจ้าของลิขสิทธ์) มีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26

กรณี 3 ฤดูกาล มูลค่าลิขสิทธิ์จะอยู่ราว 197.7 ล้านเหรียญฯ ถือว่าไม่แพงหากเทียบราคาประมูลรายการดังกล่าวของไทยที่มีการเปิดเผยล่าสุดที่ 300 ล้านเหรียญ (ฤดูกาล 2016/17-2018/19)

ส่วน 6 ฤดูกาล (JAS ต้องยืนยันข้อตกลงก่อน 1 ธ.ค.) จะอยู่ราว 560 ล้านเหรียญฯ โดยการจ่ายค่าลิขสิทธ์จะอยู่ในลักษณะการทยอยจ่าย (ยังไม่มีรายละเอียด)  คาด JAS ใช้เงินสดและการก่อหนี้รองรับการลงทุน แม้เฉพาะค่าลิขสิทธิ์ประเมิน ฐานะการเงิน JAS ปัจจุบันรองรับได้สิ้นสุดไตรมาส2 ปี 67 หากอิงเงินสดในมือ 4.7 พันล้านบาทและเงินที่จะได้รับจากการขายหุ้นทุนซื้อคืนหุ้นละ 3.5 บาท 300.7 ล้านหุ้น (ระหว่างวันที่ 24 ต.ค.67 -24 มี.ค.68) ราว 1.0 พันล้านบาท  ซึ่ง JAS มีหนี้สินรวม 4.4 พันล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย 736 ล้านบาท ขณะที่ฐานทุนสูง 1.07 หมื่นล้านบาท ดังนั้นต้องติดามรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเงื่อนไขการชำระค่าลิขสิทธิ์และต้นทุนอื่นๆ

ดังนั้น จึงประเมิน เชิงกลยุทธ์ มองข้อตกลงดังกล่าว บวกต่อ JAS, MONO เพราะ JAS ปัจจุบันหลังขายธุรกิจอินเตอร์เนตเหลือรายได้ปีละ 4 พันล้านบาท จะเป็นการหนุนธุรกิจอินเตอร์เนต ทีวีของ JAS ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ธุรกิจหลักที่มีอยู่ในปัจจุบัน (บริการ IPTV ภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV) ปัจจุบันมีลูกค้าราว 7.0 แสนราย (11% ของรายได้ไตรมาส Q2) ส่วนรายได้หลัก JAS ปัจจุบัน 64% ของรายได้มาจากธุรกิจให้เช่าโครงข่ายในและนอกประเทศและการขุด Bitcoin แนะนำเก็งกำไร


กำลังโหลดความคิดเห็น