หุ้นบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ยังร้อนแรงไม่เลิก ราคาหุ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จนเป็นหุ้นที่คึกคักโดดเด่นที่สุด เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มธุรกิจร้านอาหารด้วยกัน
OKJ นำหุ้นจำนวน 159 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนครั้งแรกในราคาหุ้นละ 6.70 บาท โดยมีค่าพี/อี เรโช ประมาณ 24 เท่า ซึ่งถูกมองว่า ราคาที่เสนอขายอยู่ในเกณฑ์ที่สูง เพราะค่าพี/อี เรโช สูงกว่าค่าพี/อี เรโชเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มร้านอาหาร
แต่เมื่อประเดิมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคากลับพุ่งทะยานนับจากเปิดการซื้อขาย ก่อนปิดที่ราคา 12.40 บาท สูงกว่าราคาจอง 5.70 บาท หรือสูงกว่าจอง 85.07% หลังจากนั้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้ถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย เพื่อดับความร้อนแรงเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมก็ตาม
ล่าสุด วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน OKJ ปิดที่ 15.40 บาท และเป็นราคาปิดสูงสุดนับจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยระหว่างชั่งโมงซื้อขายราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 16.40 บาท
หุ้นธุรกิจร้านอาหารมักคึกคักในช่วงแรกที่เข้าซื้อขายเท่านั้น หลังจากนั้นจะเงียบหาย ไม่มีวอลุ่มซื้อขาย ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่สำหรับ OKJ แม้เข้ามาซื้อขายกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ยังอยู่ในความสนใจของนักลงทุน มูลค่าซื้อขายหนาแน่น ราคายังมีแนวโน้มขาขึ้น แม้ค่าพี/อี เรโช จะขึ้นไป 47 เท่าแล้วก็ตาม แต่คาดว่าผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง
ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ OKJ มีผลกำไร 162.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 140.65 ล้านบาท โดยเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีสาขาร้านอาหารโอ้กะจู๋ทั้งสิ้น 37 แห่ง และกำลังขยายสาขาเพิ่ม
บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้ส่งบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้ามาถือหุ้นใน OKJ สัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 2,704 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 29.72% ของทุนจดทะเบียน
โบรกเกอร์ 3 แห่ง ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้น OKJ โดยประเมินราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 10.99 บาท ซึ่งบางโบรกเกอร์ตั้งราคาเป้าหมายต่ำสุดอยู่ที่ 8.20 บาท แต่บางโบรกเกอร์ตั้งราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 15.80 บาท ซึ่งราคาล่าสุดใกล้ชนราคาเป้าหมายสูงสุดที่บางโบรกเกอร์ประเมินไว้แล้ว
ราคาหุ้น OKJ จึงขึ้นมาถึงจุดที่มีความเสี่ยง เพราะราคาสูง และเกินปัจจัยพื้นฐานรองรับในมุมมองของโบรกเกอร์บางแห่ง ซึ่งไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะแม้แนวโน้มธุรกิจยังมีโอกาสเติบโต แต่เศรษฐกิจที่ซบเซา และกำลังซื้อที่ตกต่ำ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารทั้งระบบ
OKJ เป็นหุ้นธุรกิจร้านอาหารที่เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้ว ยังรักษาบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคักไว้ได้ยาวนาน อย่างน้อยปัจจุบันไม่เงียบหายเหมือนหุ้นร้านอาหารตัวอื่นๆ
เพียงแต่ราคาหุ้นที่ร้อนแรง ทำให้กลายเป็นหุ้นที่ถูกจับตาว่า จะวิ่งขึ้นสวนกระแสตลาดหุ้นที่ซบเซาได้ขนาดไหน จากนี้จะไปต่อได้อีกสักเท่าไหร่ นักเก็งกำไรยังสู้กับราคา ไล่เก็บหุ้นอีกหรือไม่
หรือ OKJ มาถึงจุดหมายปลายทางขาขึ้นแล้ว