อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม โชว์ผลประกอบการไตรมาส Q3 เพิ่มขึ้นจาก Q2 ถึง 51% มั่นใจไตรมาสสุดท้ายของปีโตอย่างต่อเนื่อง คาดหนุนทั้งปีโตทะลุเป้า
ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ผู้นำด้านโครงข่ายโทรคมนาคมและดิจิทัลโซลูชันครบวงจร เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2567 ที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาเติบโต ด้วยกำไรรวมที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ถึง 51%
แม้ในช่วงที่ผ่านมาในไตรมาส 3 บริษัทจะยังไม่มีงานใหญ่ๆ เข้ามา แต่บริษัทยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการในการเชื่อมต่อข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น โดยเป็นปัจจัยหนุนจากการเชื่อมต่อระหว่างประเทศในโครงการ AseanConnect.One ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจในคุณภาพของโครงข่ายของบริษัทในระดับประเทศ รวมถึงได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มีความต้องการในการเชื่อมต่อข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยหนุนกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ของบริษัทให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้รวม 637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสที่ 2 และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากไตรมาสที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 569 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัท 21 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้จากงานบริการโครงข่ายที่ถือเป็นรายได้หลัก จำนวน 312 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่าย 269 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้า เซ็นเตอร์ 25 ล้านบาท และรายได้จากการขายและให้บริการเครื่องมือแพทย์ 22 ล้านบาท
รวมไปถึงการอนุมัติการจัดจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เอทิกซ์ ไอเทล แบงค็อก จำกัดสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการเสริมสร้างธุรกิจการเชื่อมต่อซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรา และขยายขีดความสามารถในการให้บริการคลาวด์ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกในกลุ่ม Hyperscaler โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวทั้งทางด้านการเงินและการดำเนินงานของบริษัท และช่วยให้บริษัทสามารถลงทุนในพื้นที่การเติบโตที่สำคัญโดยไม่กระทบต่อความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบบริการคุณภาพสูง แม้ว่าการทำธุรกรรมนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้หรือกำไรสุทธิของบริษัทในระยะสั้น แต่เรามั่นใจว่าจะช่วยให้บริษัทมีความพร้อมสำหรับความสำเร็จในระยะยาว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานที่เข้ามาใหม่ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับไตรมาส 4 นี้แล้ว เช่น งานดูแลบำรุงรักษาโครงข่ายให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมค่ายหนึ่งในภาคตะวันออก มูลค่า 18 ล้านบาท งานติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร มูลค่า 36 ล้านบาท งานขยายจุดให้บริการ WIFI ให้ศูนย์ USO NET และ USO Wrap มูลค่า 100 ล้านบาท งานจ้างเหมาติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงระยะทาง 700 กิโลเมตรของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่า 56 ล้านบาท และงานติดตั้งโครงข่ายให้หน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่ง มูลค่า 180 ล้านบาท เป็นต้น
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2568 บริษัทได้เริ่มเตรียมความพร้อมที่จะต่อสัญญาให้บริการ USO Phase 1 แล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ ม.ค.2568 รวมถึงงาน USO Phase 3 ของทางสำนักงาน กสทช. ที่กำลังจะประกาศออกมาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมการดำเนินงาน เพื่อหนุนรายได้ และกำไรให้เติบโตต่อเนื่องในปี 2568
อย่างไรก็ตาม “บริษัทยังคงมุ่งรักษาความเป็นผู้นำในการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และดิจิทัลโซลูชันอย่างครบวงจร โดยเดินหน้าพัฒนา และยกระดับบริการผ่านกลยุทธ์ New S-Curve ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อมอบบริการที่ครบครัน ตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่ลูกค้าใหม่ และลูกค้าปัจจุบัน รวมทั้งพร้อมขับเคลื่อนให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ด้วย Digital Transformation จากจุดแข็งของโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพของ ITEL
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่าแนวทางดังกล่าวจะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ธุรกิจ พร้อมเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และกำไรที่มั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง” ดร.ณัฐนัย กล่าว