ความร้อนแรงของหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องออกประกาศเตือนให้นักลงทุนระมัดระวัง โดยพิจารณาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานยบริษัทอย่างรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน
เพราะราคาหุ้น DELTA ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากราคาปิดที่ 107 บาท เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ทะยานขึ้นมาปิดที่ 157 บาท เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน โดยปรับตัวขึ้น 47% ทำให้ค่าพี/อี เรโช ขยับขึ้นมาที่ 91.11 เท่า และราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชีเพิ่มเป็น 25.36 เท่า
การปรับตัวขึ้นของหุ้น DELTA ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากข่าวการลงทุนของบริษัทต่างประเทศด้าน DATA CENTER ในประเทศไทย และผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 5,910.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากระยะเดียวกันปีก่อน
DELTA วิ่งขึ้นทุบสถิติราคาสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น ติด 10 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดมายาวนาน แต่ตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ดำเนินมาตรการกำกับการซื้อขายเพื่อดับความร้อนแรงของราคา ซึ่งน่าจะเป็นเพราะไม่พบความผิดปกติในการซื้อขาย เช่นเดียวกับที่เคยตรวจสอบมาแล้วก่อนหน้า
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เกตแคปของ DELTA มีจำนวน 1.95 ล้านบาท การเคลื่อนไหวขึ้นลงของราคาหุ้น 1 บาท มีผลต่อการขึ้นลงของดัชนีประมาณ 1.5 จุด จึงเป็นหุ้นที่สามารถชี้นำทิศทางตลาดได้
การเคลื่อนไหวของ DELTA ขณะนี้ ทุกคนรู้ว่า ไม่ได้เป็นไปอย่างปกติตามปัจจัยพื้นฐาน เพียงแต่ไม่สามารถระบุถึงความผิดปกติได้เท่านั้น โดยอาจเกิดจากนักลงทุนต่างชาติ ต้องการลากหุ้นขึ้นไป เพื่อขับเคลื่อนดัชนี 50 โดยมีเป้าหมายทำกำไรจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า set 50 หรืออาจลากราคาหุ้น เพื่อกระตุ้นการเก็งกำไรหุ้น DELTA ตัวแม่ในไต้หวัน
แต่ไม่ว่านักลงทุนต่างชาติมีเป้าหมายอย่างไรในการลากราคาหุ้น แต่ DELTA มีส่วนทำให้ภาวะตลาดหุ้นไม่สะท้อนความเคลื่อนไหวที่แท้จริง แค่ถูกบิดเบือนจากหุ้นเพียงตัวเดียว นอกจากนั้น ยังทำให้นักลงทุนที่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไรตกอยู่ในความเสี่ยง เพราะราคาหุ้นพร้อมจะผันผวนตลอดเวลา
ในอดีต DELTA อาจมีปัญหาสภาพคล่องในการซื้อขาย เพราะปริมาณหุ้นที่ซื้อขายหมุนเวียนมีจำนวนน้อย เพราะสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนรายย่อยมีเพียงประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียน แต่ปัจจุบันผู้ถือหุ้นรายย่อยมีจำนวน 22,655 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 23%ของทุนจดทะเบียน ซึ่งถือว่าสภาพคล่องไม่ได้ต่ำเกินไป จนส่งผลให้ราคาขึ้นลงอย่างหวือหวา ตามแรงซื้อแรงขายที่มีเข้ามา
แต่ราคาที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แซงหน้าปัจจัยพื้นฐาน น่าจะเกิดจากประเด็นอื่นมากกว่า ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ต้องตรวจสอบ และแก้ปัญหา เพื่อให้ DELTA กลับมาเคลื่อนไหวอย่างปกติตามปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม
ฝ่ายวิเคราะห์โบรกเกอร์ทุกสำนักไม่ได้ประเมินราคาเป้าหมาย DELTA สูงมากมายนัก โดยราคาเป้าหมายเฉลี่ย โบรกเกอร์ 16 แห่งที่จัดทำบทวิเคราะห์อยู่ที่ 110 บาท ราคาเป้าหมายต่ำสุดที่บางโบรกเกอร์ตั้งไว้อยู่ที่ 70 บาท และราคาเป้าหมายสูงสุดบางโบรกเกอร์ให้ไว้ที่ 128 บาท
แต่ DELTA พุ่งทะลุทุกราคาเป้าหมายแล้ว และไม่น่าจะมีโบรกเกอร์แห่งใดแนะนำให้ซื้อแล้ว ซึ่งราคาหุ้นควรจะพักปรับฐานเสียที แต่หุ้นตัวนี้กลับวิ่งไม่หยุด สร้างจุดสูงสุดใหม่เป็นรายวัน สวนทางกับดัชนีหุ้นที่บางวันปักหัวลงนับสิบจุดก็ตาม
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาส่งสัญญาณ เตือนอันตรายแล้ว ต้องรอดูกันว่า DELTA จะพังหรือไม่