สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษกร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ทรุดลงอย่างหนัก โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์บางคนมองว่า เกิดจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ซึ่งเติบโตต่ำกว่าความคาดหมาย จึงเทขายหุ้น แต่อาจไม่ใช่ต้นเหตุที่แท้จริงของหุ้นตกรอบนี้
BH แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ก่อนเปิดการซื้อขายหุ้น วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 1,955 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,954 ล้านบาท ทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงทันทีที่เปิดการซื้อขาย และปิดที่ 239 บาท ลดลง 23 บาท หรือลดลง 8.78% มูลค่าซื้อขาย 5,550.24 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่า การทรุดหนักของหุ้น BH ต้นเหตุเกิดจากผลกำไรบริษัทที่แทบไม่เติบโต ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ปัจจัยหลักๆ อาจเกิดจากการเทขายของนักลงทุนรายใหญ่
และราคาหุ้นลดลงมาตั้งวันที่ 6 ตุลาคมแล้ว และลงต่อเนื่อง 3 วันติด จากราคาปิดวันที่ 5 ตุลาคมที่ 270 บาท และปิดการซื้อขายวันที่ 8 ตุลาคมที่ 231 บาท โดย 3 วันทำการลดลง 39 บาท หรือลดลง 11.68%
BH ขนาดใหญ่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน โดยผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกลุ่มนายชัย โสภณพนิช
เดือนกันยายนที่ผ่านมา หุ้น BH เคยทรุดหนักมาช่วงหนึ่งแล้ว โดยเกิดจากนายสาธิต วิทยาการ ผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 5.11% หรือถือหุ้นใหญ่จำนวน 40.66 ล้านหุ้น ได้ขายหุ้นโดยทำรายการบิ๊กล็อต หรือการซื้อขายรายใหญ่ผ่านตลาดหลักทรัพย์จำนวน 20.66 หุ้น หรือ 2.59% ในราคา 257 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 5,140 บาท
และหุ้นที่ทรุดลงรอบนี้มีการคาดหมายว่า อาจเกิดจากการเทขายของนายสาธิต ซึ่งการขายหุ้นไม่ต้องรายงานให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว เพราะถือหุ้นต่ำกว่า 5% ของทุนจดทะเบียน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อหุ้น BH เพื่อการลงทุนระยะยาว เพราะแนวโน้มผลกำไรเติบโต และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันมีค่าพี/อี เรโช 24 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 1.95%
ในรอบ 12 เดือน BH เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 284 บาท และต่ำสุดที่ 212 บาท ความเห็นของฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์ 14 แห่ง มีทั้งคำแนะนำให้ซื้อและถือ โดยไม่มีโบรกเกอร์ใดแนะนำให้ขาย ส่วนราคาเป้าหมายที่ประมาณการไว้ ราคาเฉลี่ยจาก 14 โบรกเกอร์อยู่ที่ 288 บาท ราคาต่ำสุดที่บางโบรกเกอร์ให้ไว้อยู่ที่ 242 บาท และราคาเป้าหมายสูงสุดที่บางโบรกเกอร์ตั้งไว้อยู่ที่ 312 บาท
แต่ราคาหุ้น BH ล่าสุดลงมายืนที่ 231 บาท ต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่ทุกโบรกเกอร์ประมาณการไว้ จึงมีบางโบรกเกอร์แนะนำให้หาจังหวะช้อนซื้อเก็บ เพราะมองว่า แนวโนมผลประกอบการยังเติบโตอยู่ เพียงแต่รอให้การปรับฐานรอบนี้สะเด็ดน้ำก่อน
ผู้ถือหุ้นรายย่อย BH มีจำนวน 12,252 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อเพื่อการลงทุนระยะยาว เพียงแต่ราคาที่ถูกทุบร่วงแรงมา 3 วันติด อาจทำให้สูญเสียความมั่นใจ และผสมโรงเทขายออกมาด้วย
ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่า มีปัจจัยลบอะไรที่กดดันให้ BH ดิ่งลง เพราะผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลักของแรงขายที่ไหลบ่าเข้ามา
แต่คาดเดากันว่า อาจเป็นแรงขายของนักลงทุนรายใหญ่ และถ้าจริง รายใหญ่น่าจะใกล้หมดแรงขายหุ้น BH แล้ว